![](https://pr.moph.go.th/assets/uploads/news/2566/pfcvljief6pu.jpg)
กระทรวงสาธารณสุข ปฐมนิเทศแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรจบใหม่ 3,045 คน ก่อนส่งไปปฏิบัติงานดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศในพื้นที่ 12 เขตสุขภาพและกทม. ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559
นายแพทย์โสภณกล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้เกิดการพัฒนาและอภิบาลระบบสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน”โดยนำอักษรย่อชื่อกระทรวงสาธารณสุข คือ MOPH มาใช้ปลูกฝังค่านิยม 4 ด้านให้เกิดขึ้นในบุคลากรทุกคน ได้แก่ 1.Mastery คือมีภาวะผู้นำ เป็นนายของตัวเอง ควบคุมตนเองได้ 2.Originality สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยการกำหนดนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน 3.PeopleCentered Approach ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการบริการ และ4.Humility มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำงานเพื่อประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาความเป็นเลิศ 4 ด้าน คือ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&PExcellence)การจัดระบบบริการสุขภาพ (Service Excellence) การพัฒนาคน (People Excellence) และระบบบริหารจัดการที่มีคุณธรรม (Governance Excellence) ให้คุณค่าผู้ป่วยด้วยการ “เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้”
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อ กระทรวงสาธารณสุข ได้พัฒนาคุณภาพระบบบริการ ลดป่วย ลดตาย ลดแออัด โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม ปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ การกระจายตัว และกระจุกตัวของบุคลากรในแต่ละพื้นที่ยังมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร ซึ่งขณะนี้สัดส่วนแพทย์ต่อประชากรในเขตชนบททั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 2,500 คน เฉพาะแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมี 18,014 คนทั่วประเทศ คิดเป็น 1 ต่อประชากร 3,648 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุประเทศที่พัฒนาแล้วมีสัดส่วน 1 ต่อ 1,250 คน ส่วนทันตแพทย์ทั่วประเทศมี 4,854 คน คิดเป็นสัดส่วน 1 ต่อ 13,549 คน ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วมีสัดส่วน 1: 2,000 คน ทำให้มีภาระงานหนักมาก ส่งผลให้ 3 ปีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2556-2558 มีแพทย์ ทันตแพทย์ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขลาออกแล้ว 3,221 คน เป็นแพทย์ 2,457คน ทันตแพทย์ 764 คน ส่วนใหญ่ลาออกไปศึกษาต่อ และกลับภูมิลำเนา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำแผนกำลังคนด้านสุขภาพในภาพรวมของประเทศ
“ทั้ง 3 วิชาชีพถือเป็นตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับเกียรติให้ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ขอให้ทำงานโดยยึดถือประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์อะไร ต้องปรับตัวและยอมรับความแตกต่างของผู้ร่วมงานที่เป็นสหวิชาชีพ ปัจจุบันนี้ไม่มีพื้นที่ในประเทศไทยที่ลำบากเกินจะไปอยู่ได้ จากความเจริญของการคมนาคมและการสื่อสารที่ดี ติดตามข่าวสารได้พร้อมกับคนในเมืองใหญ่ โดยผู้บริหารทุกระดับจะเอาใจใส่และให้การดูแลสนับสนุน” นายแพทย์โสภณกล่าว
********************** 12 พฤษภาคม 2559
****************************
View 12
12/05/2559
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ