![](https://pr.moph.go.th/assets/uploads/news/2566/lw3agw41tgmu.jpg)
กระทรวงสาธารณสุขเผยผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า กว่าร้อยละ 80 เกิดจากถูกสุนัขเลี้ยงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ล่าสุดปี 2559 นี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 3 ราย เนื่องจากไม่ไปพบแพทย์หลังถูกสัตว์กัดหรือข่วน โรคนี้เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ต้องเฝ้าระวังและแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเมื่อพบผู้ป่วย ยืนยันไม่เคยปิดบังตัวเลขผู้ป่วย แนะหากพบสุนัขหรือแมว มีอาการหางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เซื่องซึม ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือผู้นำชุมชนทันที
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่พื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศภายในปี 2563 โดยมีมาตรการเฝ้าระวังค้นหาโรคอย่างทั่วถึง ควบคุมการนำสัตว์เข้ามาในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสุนัข และการฉีดวัคซีนในคนเมื่อถูกกัด ข่วน เป็นต้น หากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยป่วย มีอาการ หางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เซื่องซึม ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือผู้นำชุมชนทันที
การป้องกัน มีดังนี้ 1.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สัตว์เลี้ยง ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 2-4 เดือน และฉีดซ้ำทุกปี 2.เลี้ยงสุนัขด้วยความรับผิดชอบ ไม่ไปปล่อยทิ้งในสถานที่สาธารณะ รวมทั้งช่วยกันลดจำนวนสุนัข/แมว จรจัดในชุมชน 3.ปฏิบัติตามคำแนะนำ คาถา 5 ย เพื่อป้องกันการถูกสุนัขกัด ได้แก่ อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห อย่าเหยียบสุนัข หรือทำให้สุนัขตกใจ อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือที่ไม่ทราบประวัติ และ4.เมื่อถูกกัด ให้ล้างแผลให้สะอาด ขังสุนัข/แมวที่กัดดูอาการ อย่างน้อย 10 วัน และรีบไปพบแพทย์ เพื่อพิจารณาให้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามแนวทางมาตรฐาน ฟรี สำหรับการตรวจยืนยันโรคพิษสุนัขบ้าในคน ส่งตัวอย่างตรวจที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
****************************** 20 เมษายน 2559
View 9
20/04/2559
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ