รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยขณะนี้การอบรมพัฒนาอสม. ให้เป็นอสม.ผู้เชี่ยวชาญ 290,000 คน เสร็จสิ้นทุกจังหวัดแล้ว ยอดเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดเกือบ 1 แสนคน เตรียมพร้อมรองรับการรณรงค์ตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ครั้งใหญ่ในประเทศ ระหว่างวันที่ 2-8 กันยายนนี้ เผยขณะนี้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงกว่า 10 ล้านคน โดยร้อยละ 50 ยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วย วันนี้ (17 สิงหาคม 2550) ที่จังหวัดน่าน นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดน่าน ปี 2550 ที่โรงแรมซิตี้ปาร์ค ซึ่งการตรวจเยี่ยมการฝึกอบรม อสม.ผู้เชี่ยวชาญในวันนี้ จังหวัดน่านเป็นจังหวัดสุดท้ายในการอบรม หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดอบรมพัฒนาความรู้ด้านต่างๆ ทุกจังหวัด มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2550 เพื่อให้อสม.เป็น อสม.ผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดในชุมชน รวมทั้งคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัญหาสุขภาพจิต แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้การอบรมอสม.ทั่วประเทศได้ผลเกินคาด มีอสม.ให้ความสนใจกระตือรือร้นที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสาร พัฒนาเป็น อสม.ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพในยุคใหม่และอนาคต เข้ารับการอบรม 290,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดคือ 220,000 คน ทั้งนี้ อสม.ผู้เชี่ยวชาญทุกคนนอกจากจะนำความรู้ความสามารถไปถ่ายทอดและดูแลประชาชนที่รับผิดชอบแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมที่จะให้ อสม.ทุกหมู่บ้าน รณรงค์วัดความดันโลหิตผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป พร้อมกันทั่วประเทศระหว่างวันที่ 2-8 กันยายนนี้ เพื่อค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงและผู้ที่มีแนวโน้มจะป่วยได้ และทำการรักษาแต่เนิ่นๆ คาดว่าจะสามารถคัดกรองได้อย่างน้อย 10 ล้านคน “สิ่งที่จะฝากให้อสม.ได้รณรงค์ให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปพร้อมกันไปด้วยคือ การปรับพฤติกรรมการกินอาหารทุกมื้อ โดยใช้หลัก 3 ไม่ คือ ไม่หวานเกินไป ไม่มันเกินไป และไม่เค็มเกินไป หากลดพฤติกรรมนี้ได้ จะสามารถป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานได้ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน ได้ให้อสม.เชี่ยวชาญทุกคนเฝ้าระวังสุขภาพ โดยได้วัดรอบเอว ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และเจาะเลือดหาสารพิษตกค้างด้วย” นายแพทย์วัลลภ กล่าว นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม โรคที่เป็นปัญหาในขณะนี้และคาดว่ารุนแรงต่อไปจนถึง 30 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้อสม.ต้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย มี 5 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม และสามารถป้องกันได้ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง ขณะนี้พบคนไทยป่วยแล้วกว่า 10 ล้านคน ในจำนวนนี้รู้ตัวว่าป่วยเพียงร้อยละ 30 และมีผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการแล้ว 3 ล้านคน แต่รู้ตัวว่าป่วยเพียงร้อยละ 50 ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้หากรักษาไม่ต่อเนื่องจะเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง ที่พบได้บ่อยๆ ในโรคเบาหวาน ได้แก่ ไตเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม หัวใจขาดเลือด เป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบทำให้ขาดเลือดและเกิดภาวะเนื้อตายที่เท้า ต้องตัดทิ้ง หรือตาบอด เป็นต้น ส่วนโรคแทรกซ้อนในความดันโลหิตสูงคือ เส้นเลือดสมองแตก อัมพาต ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก *************************17 สิงหาคม 2550


   
   


View 14    17/08/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ