กระทรวงสาธารณสุข เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลงานวิชาการ/นวัตกรรมการจัดบริการที่ดีสำหรับประชาชน  จาก 13 เขตบริการสุขภาพทั่วประเทศ  เผยในรอบ 2 ปี เกิดผลงานฯ 130 เรื่อง นำไปใช้ได้จริง  ชี้ ความสำเร็จของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ มาจากความมุ่งมั่นบุคลากรทั่วประเทศ และความร่วมมือจากราชวิทยาลัย ชมรม สมาคม ภาครัฐ เอกชน  ประชาชนเข้าถึงสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไกล

วันนี้(9 กันยายน 2558) ที่ โรงแรมเซนทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กทม. นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ(Service Plan)ปี 2558 เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในเขตสุขภาพ  เป็นเวทีแสดงผลงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดบริการที่ดีสำหรับประชาชน ผู้เข้าประชุมประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลางและภูมิภาค คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสุขภาพ และผู้ปฏิบัติทุกสาขาในทุกเขตสุขภาพรวม  900 คน

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาระบบบริการสุขภาพตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้แผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการดำเนินงานของเขตสุขภาพ   13 เขต ซึ่งมีความครอบคลุมสถานบริการเขตฯละ 4-8 จังหวัด  ดูแลประชาชนประมาณ 5 ล้านคน  มีระบบเชื่อมโยงกันเป็น เครือข่ายบริการที่ไร้รอยต่อตามสภาพข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์และการคมนาคม เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด  ให้มีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ขจัดสภาพการแข่งขัน  เพิ่มคุณภาพระบบหลักประกันสุขภาพ ทำให้ประชาชนได้รับบริการเบ็ดเสร็จภายในเครือข่ายบริการ  มีคุณภาพ มาตรฐาน ทั่วถึง เป็นธรรม และมีระบบบริหารจัดการที่มีเอกภาพ ที่สำคัญคือประชาชนมีความสุขในการมาใช้บริการ ที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไกล และเมื่อทุเลาแล้ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข

          ทั้งนี้ได้จัดทำแผนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ระยะเวลา 5 ปี มุ่งพัฒนาระบบบริการตั้งแต่ ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ และศูนย์ความเชี่ยวชาญระดับสูง แก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญ 10  สาขา และในปี 2558 ได้เพิ่มอีก 1 สาขา ได้แก่ สาขาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน  ผลการพัฒนาในรอบ 2 ปี เกิดผลงานวิชาการ นวัตกรรมการบริการที่ดีสำหรับประชาชน( Best Practice) มากถึง 130 เรื่อง จาก 13 เขตสุขภาพ อาทิ การลดระยะเวลาการส่งต่อผู้บาดเจ็บทางสมอง การพยาบาลผู้ป่วยหอบหืด  การป้องกันการเกิดโรคสมองขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นพลิ้ว การปลูกถ่ายไขกระดูก  ระบบช่องทางด่วนผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น  โดยจะคัดเลือกผลงานระดับเขตฯเหลือ 39 เรื่อง และคัดเลือกเป็นรางวัลระดับประเทศ 3 รางวัล  และจะให้จัดทำเป็นคู่มือการทำงาน เพื่อนำไปใช้ได้จริง  เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเต็มที่       

“ความสำเร็จของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ  มาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในระดับเขต/จังหวัด/อำเภอ/ตำบล สถานบริการสุขภาพทุกระดับ และความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดี  อาทิ  ผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ ราชวิทยาลัย ชมรม สมาคมที่เกี่ยวข้อง จากภาครัฐและเอกชน  เป็นต้น ที่ได้ทำงานบริหารจัดการร่วมกัน พัฒนาระบบบริการให้เข้มแข็งมีคุณภาพมาตรฐาน  ประชาชนเข้าถึงบริการใกล้บ้าน  ”   นายแพทย์ณรงค์กล่าว

                       **********************************************************  9 กันยายน 2558



   


View 11    09/09/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ