กระทรวงสาธารณสุข พบผู้สูงอายุเผชิญปัญหาสุขภาพช่องปากมากถึง 7 ปัญหา  เช่น สูญเสียฟัน ฟันผุ  รากฟันผุ โรคปริทันต์ มะเร็งช่องปาก เร่งจัดแผนแก้ไขต่อเนื่องพ.ศ. 2558-2565 เน้นส่งเสริมและป้องกันการสูญเสียฟัน เช่น ใช้ฟลูออไรด์ แปรงซอกฟัน ตั้งเป้าภายใน 8 ปีผู้สูงอายุร้อยละ 80 มีสุขภาพช่องปากดี พร้อมทั้งเร่งแก้ปัญหาโรคฟันผุของเด็กในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งพบว่าฟันแท้ผุถึงร้อยละ 13

วันนี้ (19 สิงหาคม 2558) ที่ โรงแรมริชมอนด์ สไตลิส คอนเวนชั่น จ.นนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติครั้งที่ 3 เรื่อง การพัฒนาระบบเครือข่ายสุขภาพช่องปากระดับอำเภอเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพช่องปาก และมอบนโยบายการดำเนินงานในปี 2559  

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า สถานการณ์โรคสุขภาพช่องปากปัจจุบันนี้พบทุกวัย ซึ่งมีสาเหตุจากมีพฤติกรรมและมีแนวโน้มพบมากขึ้นในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน จะพบโรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์เพิ่มขึ้น และนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด และพบว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีการสูญเสียฟันสูงที่สุดถึงร้อยละ 88 เหลือฟันใช้งานไม่ถึง 20 ซี่ ร้อยละ 37 ซึ่งปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย 7 อันดับ ได้แก่ การสูญเสียฟัน ฟันผุและรากฟันผุ เหงือกอักเสบ ภาวะน้ำลายแห้ง แผลและมะเร็งช่องปาก ฟันสึก และโรคช่องปากที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน  

กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดแผนแก้ไขสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ พ.ศ.2558-2565 นอกเหนือจากการใส่ฟันเทียม การฝังรากฟันเทียมแล้ว จะเน้นการส่งเสริมป้องกันเพื่อลดการสูญเสียฟัน เช่น การแปรงฟันที่ถูกวิธี การใช้ฟลูออไรด์เคลือบฟัน โดยบูรณาการทำงานทีมหมอครอบครัวทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล ซึ่งจะดูแลครอบคลุมผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ทุกคน ทั้งที่ช่วยเหลือตนเองได้และที่ติดเตียง หรือมีโรคประจำตัว ซึ่งแผนพัฒนานี้จะรองรับการเข้าสู่สังคมสูงอายุของประเทศ ขณะนี้เรามีผู้สูงอายุประมาณ 10 ล้านคน และคาดว่าในปี พ.ศ.2563 จำนวนจะเท่ากับจำนวนเด็กประมาณ 13 ล้านคน และในอีก 25 ปี จำนวนผู้สูงอายุจะมากกว่าจำนวนเด็กถึง 2 เท่าตัว  

นอกจากนี้ ยังได้เน้นพัฒนาสุขภาพช่องปากในกลุ่มเด็ก เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมดูแงสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง  โดยเฉพาะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งผลการสำรวจล่าสุดในปี 2556 พบว่า เด็กป.1ฟันแท้ผุร้อยละ 13 และเข้าถึงบริการได้น้อย จึงเน้นปลูกฝังพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง  โดยร่วมกับมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯภายใต้โครงการเด็กไทยไร้ฟันผุในถิ่นทุรกันดารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ด้านดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ตามแผนงานทันตสุขภาพผู้สูงอายุพ.ศ.2558-2565 ตั้งเป้าว่าภายใน 8 ปี ผู้สูงอายุร้อยละ 80 จะต้องมีสุขภาพช่องปากดี เช่น มีฟันเคี้ยวอาหาร อย่างน้อย 20 ซี่  ตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน โดยกรมอนามัยได้อบรมทันตบุคลากร เช่น ทันตแพทย์ให้เป็นนักจัดการปัญหาสุขภาพช่องปากระดับอำเภอ เพื่อให้การขับเคลื่อนแก้ไขเป็นไปในแนวเดียวกันทั้งอำเภอครอบคลุมประชาชนทุกวัย เพิ่มการเข้าถึงบริการมากขึ้น รวมทั้งการให้ความรู้ในการกินยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงจะทำให้น้ำลายแห้ง ผลการดำเนินงานในปี 2558 ปีนี้พบว่าบางกลุ่มดีขึ้น เช่น การเคลือบฟลูออไรด์ในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ร้อยละ 40 เคลือบหลุมร่องฟันเด็กประถมร้อยละ 50 ใส่ฟันเทียมพระราชทานในกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มจาก 35,000 ราย เป็น 40,000 ราย

*********************** 19 สิงหาคม 2558



   
   


View 9    19/08/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ