รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส

(Middle East Respiratory Syndrome : MERS)
ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2558

1. สถานการณ์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2558   
1. พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศ 1 ราย  
2. พบผู้สัมผัสโรค 154 คน 
     3. สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 1,356 ราย เสียชีวิต 484 ราย  ใน 26 ประเทศ ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 182 ราย  เสียชีวิต 33 ราย 
4. ขอความร่วมมือประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์  เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก  และมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง 

2. สธ.เผยผู้สัมผัสผู้ป่วยโรคเมอร์ชาวโอมาน ทั้งหมดจะพ้นการเฝ้าระวังโรคในคืนนี้ 
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมวอร์รูมฯติดตามสถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส  และให้สัมภาษณ์ว่า  ในคืนวันนี้ ผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง 16 คนและผู้สัมผัสโรคเสี่ยงต่ำ 52 คน  จะพ้นจากระบบเฝ้าระวังโรค 14 วันตามมาตรฐานที่ได้วางไว้  โดยในผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูงทุกคน จะได้รับการตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการให้มั่นใจ ก่อนให้กลับในวันที่ 2 กรกฎาคม 2558  
ทั้งนี้ ความเสี่ยงของประเทศไทยจากโรคเมอร์ส มาจาก 2 ทาง คือจากผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีอาการ และจากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรค ซึ่งความเสี่ยงทางที่ 1 ได้รับการป้องกันและกำลังจะหมดไปในวันพรุ่งนี้  ยังเหลือความเสี่ยงทางที่ 2 ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โรคที่เกาหลีใต้ แนวโน้มดีขึ้นไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ส่วนผู้สัมผัสโรคมีประมาณ 2,000 กว่าคนคาดว่าจะติดตามได้ทั้งหมด  ส่วนที่ตะวันออกกลาง มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย  จึงต้องแนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ติดโรค ให้รู้วิธีป้องกันตัวอย่างถูกต้อง  และต้องเข้มงวดในการคัดกรองเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรคทุกคน  และขอให้ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ติดโรค หากมีไข้  ไอ ให้สวมหน้ากากอนามัย  รีบไปพบแพทย์แจ้งประวัติการเดินทาง และอย่านั่งรถสาธารณะมาโรงพยาบาลเอง ให้โทร 1669  
-ผู้ป่วยชาวโอมานที่ได้รับการรักษาในห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร วันนี้อาการดีขึ้น ไม่มีอาการไอ ยังต้องอยู่ในการดูแลรักษาโรคประจำตัวที่มีอยู่ด้วย จึงยังคงอยู่ในห้องแยกโรค ส่วนญาติ 3 คน อาการปกติ
         -ขณะนี้มีผู้โทรศัพท์รบกวนสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422  เฉพาะคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีโทรศัพท์ถึง 31 สาย จากผู้โทรคนเดียวกัน  จึงขอความร่วมมือประชาชน ขอให้ใช้ประโยชน์จากสายด่วน เพื่อให้คำปรึกษา และประสานส่งต่อการรักษาสำหรับผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน อย่าโทรรบกวน ซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องการความช่วยเหลือจริงต้องเสียโอกาส

3. การเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค
          ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค ซึ่งส่วนใหญ่คือผู้เดินทางจากประเทศที่มีรายงานการเกิดโรคเมอร์สเข้ามาทั้งหมด  134 ราย  ในจำนวนนี้มาจากเกาหลีใต้ 70 ราย จากตะวันออกกลาง 64 ราย  สำหรับในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค รวม 3 ราย มาจากเกาหลีใต้ 1 คน  ตะวันออกกลาง 2 คน ทุกคนได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ   
4. สรุปผลการให้บริการสายด่วน 1422   ปรึกษาประชาชนเรื่อง โรคเมอร์ส
           ในรอบ 24 ชั่วโมง วันที่ 1 กรกฎาคม 2558  มีผู้โทรมาสอบถามที่สายด่วน กรมควบคุมโรค รวม 83  สาย เป็นโรคเมอร์ส 23 สาย    คำถามที่ถามมากที่สุด คือ อาการ และสถานการณ์โรค การส่งต่อผู้ป่วยและการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ  แผ่นพับโรคเมอร์ส ภาษาอื่นๆ เช่น จีน เวียดนาม    
5. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
-ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ ในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 จำนวน 28,477 คน
พบผู้มีไข้ 2 คน ไม่มีประวัติการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงโรคเมอร์ส และ อีโบลา    
-ขอความร่วมมือสายการบิน ประกาศเตือนบนเครื่องบิน เรื่องมาตรการคัดกรองที่สนามบิน/ แจกคำแนะนำ (health beware card) บนเครื่อง 37 เที่ยวบินตรงจากพื้นที่เสี่ยง / แนะนำการเข้มงวดทำความสะอาดเครื่องบิน
- ประสานงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผู้เดินทางจากเขตติดโรคให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจ
วัดไข้ทุกราย ก่อนอนุญาตให้เข้าเมือง
- ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) 4 จุด / ติดตั้งแอลกอฮอล์เจลกว่า 200 จุด 
ทั่วสนามบินแจกหน้ากากอนามัยที่จุดประชาสัมพันธ์ 

6. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคเมอร์ส
         ประชาชนคนไทยทั่วไปไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเมอร์ส  ยกเว้นผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มี
การระบาด สำหรับประชาชนทั่วไปมีข้อปฏิบัติดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม
2. ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ 
3. รับผิดชอบต่อสังคม เมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอ  หรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย  สำหรับผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค  หากมีอาการดังกล่าวภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง 
4. ประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ไอ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเมอร์ส ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาตามปกติ  หรือโทรปรึกษา สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422  ตลอด 24 ชั่วโมงหรือติดตามข่าวสารทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”
****************************** 1 กรกฎาคม 2558
 


   
   


View 13    01/07/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ