รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเตือนตั้งวงดื่มเหล้าฉลองสงกรานต์ช่วงกลางวัน  แม้ชงกับน้ำแข็งก็ตาม   ชี้เสี่ยงอันตรายสูงเนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้แอลกอฮอล์ถูกดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ความดันโลหิตสูงเสี่ยงช็อก เสียชีวิตได้  
 
          วันนี้ (12 เมษายน 2558) นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศร้อนอบอ้าวมาก โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน อุณหภูมิบางแห่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เกินอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งมีระดับที่ 37 องศาเซลเซียส  จึงมีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชนเพราะอากาศที่ร้อนจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงกลางวันหรือช่วงอุณหภูมิสูง  จะทำให้มีความเสี่ยงเกิดอาการช็อกได้  เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะดื่มโดยใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ตาม   เมื่อดื่มแล้วจะมีผลทำให้หลอดเลือดที่บริเวณผิวหนังขยายตัว  ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงขึ้น ร่างกายจึงพยายามระบายความร้อนออก  โดยปรับเปลี่ยนอัตราและการหมุนเวียนของโลหิต เพื่อปรับระดับอุณหภูมิให้ปกติ จึงทำให้มีอาการหอบ ใจสั่น เหงื่อออก ปัสสาวะบ่อย  ผลที่ตามมาจะทำให้ร่างกายขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว  
 
          ดังนั้น จึงขอแนะนำประชาชน ควรหลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศร้อน เพื่อลดความเสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะหากเป็นผู้มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีความเสี่ยงมากขึ้น   เนื่องจากในสภาวะที่อากาศร้อนอบอ้าวจะทำให้แอลกอฮอล์ถูกดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแสโลหิตได้เร็ว และจะเพิ่มแรงดันโลหิตให้สูงขึ้น อาจเกิดปัญหาเส้นเลือดแตกได้ และแนะนำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวกินยาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง เพื่อรักษาในกระแสเลือดให้คงที่     
 
          ทางด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการรักษาระดับอุณหภูมิร่างกายให้สามารถปรับตัวสู้กับอากาศร้อนอบอ้าว ขอให้ประชาชนเพิ่มการดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และบ่อยๆ เนื่องจากน้ำจะเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ วิธีการสังเกตว่าร่างกายตนเอง ได้รับน้ำเหมาะสมเพียงพอหรือไม่  สามารถสังเกตง่ายๆ จากสีของน้ำปัสสาวะ หากมีสีเหลืองจางๆ แสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้ามีสีเหลืองเข้มคล้ายน้ำชา และปัสสาวะออกน้อยแสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะต้องดื่มน้ำให้มากๆ 
 
          สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่ออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ส่วนผู้ที่ทำงานในที่ร่มควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว รวมทั้งต้องลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งลง ประการสำคัญสำหรับผู้ที่ใช้รถ อย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง เพราะจะทำให้เกิดโรคฮีตสโตรกได้ง่าย นายแพทย์โสภณ กล่าว
 
****************************************** 12 เมษายน 2558


   
   


View 10    12/04/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ