กระทรวงสาธารณสุข เร่งสร้างภูมิคุ้มกันปกป้องระบบธรรมาภิบาล ระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และการจัดซื้อจัดจ้างในสถานบริการในสังกัดทุกระดับ ให้เกิดความยั่งยืน ไร้ปัญหาการแทรกแซง ป้องกันการทุจริต  มุ่งหวังให้เป็นหน่วยงานราชการต้นแบบ พิทักษ์รักษาผลประโยชน์แทนประชาชน
  
  วันนี้ (12 มีนาคม 2558) นายแพทย์วชิรระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมตัวแทน 25 วิชาชีพและ 53 ชมรมวิชาชีพต่างๆ จากหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศประมาณ 500 คน จัดโดยกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพัฒนาส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างธรรมาภิบาล และกลไกการอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารรณสุขอย่างยั่งยืน   
 
  นายแพทย์วชิระกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักทำหน้าที่พัฒนาระบบสุขภาพของประเทศเพื่อให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพ เกิดความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งขณะนี้สาเหตุการเจ็บป่วยของคนไทยเปลี่ยนแปลงจากอดีตร้อยละ 70 ของการป่วยเกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เหลืออีกร้อยละ 30 เกิดจากการติดเชื้อและการบาดเจ็บต่างๆ ค่าใช้จ่ายสุขภาพสูงขึ้นเป็นร้อยละ 4.1 ของผลิตภัณฑ์รวมของประเทศหรือจีดีพี การเข้าถึงบริการยังมีความเหลื่อมล้ำกัน จำเป็นจะต้องเร่งพัฒนาแก้ไขปรับปรุงระบบบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมา ยังมีข้อจำกัด ขาดการจัดการเชิงโครงสร้างหรือเชิงระบบ ขาดกลไกความเชื่อมโยงการบูรณาการ  ทำให้มีการทบทวนบทบาท ภารกิจ การกำหนดทิศทางการพัฒนาการดำเนินงาน และสร้างกลไกการอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปฏิรูปของประเทศ  

  นายแพทย์วชิระกล่าวต่อว่า เรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญและต้องการให้เกิดขึ้นในช่วงที่มีปฏิรูปประเทศขณะนี้ มี 2 เรื่องหลัก เรื่องแรกคือ การสร้างระบบคุณธรรมจริยธรรม ควบคู่ไปกับการปรับปรุงรูปแบบและวิธีการทำงาน เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่งเสริมให้ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับตั้งแต่เขตสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ยึดการบริการจัดการภายใต้ระบบคุณธรรม โดยเฉพาะที่เป็นปัญหาหลักของราชการ  2 เรื่องคือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเกือบทุกระดับ และการแทรกแซงการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ขจัดปัญหาการทุจริต

  ประการที่ 2 คือการสร้างกลไกการเฝ้าระวัง ตรวจสอบและถ่วงดุลการบริหารราชการ โดยส่งเสริมให้บุคลากรทุกสายวิชาชีพ ซึ่งมี 25 วิชาชีพ ร่วมทำหน้าที่ปกป้องเป็นเสมือนภูมิคุ้มกันระบบให้เข้มแข็ง ยั่งยืน เป็นหน่วยงานที่ทำงานพิทักษ์ผลประโยชน์เพื่อประชาชน ซึ่งจะทำให้ระบบราชการมีความโปร่งใส เข้มแข็ง เป็นที่ศรัทธาเชื่อมั่นทุกฝ่าย    

*************************************** 13 มีนาคม 2558



   
   


View 8    13/03/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ