ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชูการปฏิรูประบบสาธารณสุข 5 ด้าน เน้นให้ความสำคัญผู้ปฏิบัติงานในภูมิภาคเองจากอยู่หน้างานและเห็นปัญหา เพื่อพัฒนาสุขภาพและคุณภาพประชาชนไทย  บุคลากรมีคุณภาพ-คุณธรรม  เพิ่มขีดการแข่งขันประเทศไทยกับนานาประเทศ       

วันนี้(11 มีนาคม 2558)ที่ โรงแรมบางกอก กอล์ฟ สปา รีสอร์ท จ.ปทุมธานี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดอบรมปฐมนิเทศนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ผู้อำนวยการสำนัก กอง ศูนย์ของกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เพื่อปรับกระบวนทัศน์ พัฒนาความรู้ ความเข้าใจในการบริหารงานแนวใหม่ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงองค์กร  บริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 80 ของบริการสุขภาพทั้งหมด ที่เหลือเป็นของภาครัฐอื่นและเอกชน มีเป้าหมายให้ประชาชนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับบริการจากบุคลากรที่มีมาตรฐานวิชาชีพ และมีคุณธรรม ระบบสุขภาพที่ผ่านมายังไม่สามารถลดจำนวนคนป่วยได้ ค่าใช้จ่ายสุขภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพทั้งระบบการเงินและการบริหารภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่ และต้องเพิ่มด้านการพัฒนาคุณภาพทุนมนุษย์อย่างจริงจัง  เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ   สร้างขีดความสามารถการแข่งขันกับนานาชาติ

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ระบบสุขภาพที่อยากเห็น คือระบบสุขภาพที่เป็นองค์รวม โครงสร้างการบริหารระบบบริการที่ไม่รวมศูนย์ เพิ่มหน่วยบริหารจัดการในระดับเขตและระดับพื้นที่ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิรูประบบสาธารณสุขเน้นหนักใน 5 ด้านสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะก่อให้การเปลี่ยนแปลงในอนาคต ได้แก่1.ปฏิรูประบบบริการเป็นเขตสุขภาพ 12 เขตภูมิภาคและกทม. ให้ความสำคัญกับผู้ปฏิบัติงานในภูมิภาค เพราะเป็นผู้ที่ปฏิบัติอยู่หน้างานและรู้ปัญหาพื้นที่ดีกว่า เพื่อจัดบริการประชาชนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ทำแผนการจัดบริการ ช่วงแรกเน้น 10 สาขาที่จำเป็นเร่งด่วน เช่นมะเร็ง หัวใจ อุบัติเหตุ ตา ไต พัฒนามาตรฐานระบบบริการระดับตำบล อำเภอ ซึ่งจะเน้นการป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพอย่างสมบูรณ์แบบเบ็ดเสร็จในเขตสุขภาพ ตั้งคณะกรรมการบริหารเขตสุขภาพ 2 ชุดใหญ่คือคณะกรรมการอำนวยการเขตสุขภาพ และคณะกรรมการเขตบริการสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วมทั้งหน่วยบริการทั้งในและนอกสังกัด ทั้งภาครัฐเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานเพื่อประชาชนร่วมกัน

 2.ปฏิรูปการเงินการคลังด้านสุขภาพ ให้มีธรรมาภิบาลและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม หรือไม่น้อยกว่าเดิม หน่วยบริการได้รับงบประมาณเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการจัดบริการประชาชน 3.สร้างระบบธรรมาภิบาลและกลไกเฝ้าระวัง ตรวจสอบถ่วงดุล โดยสร้างความเข้มแข็งของกลไกประชาคมสาธารณสุข เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุ(Watch and Voice) การบริหารจัดการทุกระดับของกระทรวงสาธารณสุข  เป็นพลังปกป้องระบบคุณธรรมในการบริหารประเทศ 4.การบริหารกำลังคนภาครัฐ ให้สอดคล้องกับระบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและควรจะเป็น และ5.การดูแลส่งเสริมพัฒนาการเด็กไทย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 5 ปี ซึ่งในปีนี้ได้จัดเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นการลงทุนพัฒนาคุณภาพและเตรียมความพร้อมทุนมนุษย์สู่ระบบการศึกษา และการประกอบอาชีพ โดยจะเน้นคุณภาพทั้งระบบตั้งแต่การฝากครรภ์ การคลอดที่มีมาตรฐาน และระบบการเลี้ยงดูในช่วงวัยต่างๆที่มีคุณภาพ   

                                                           ******************************  มีนาคม 2558​



   
   


View 10    11/03/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ