นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ประชุมคณะกรรมการพัฒนานโยบายและการบริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อการปฏิรูประบบสุขภาพ ให้เดินหน้าการปฏิรูประบบสุขภาพให้ดีขึ้น ที่ประชุมเห็นว่าผลการบริหารจัดการร่วมของเขตสุขภาพทำให้เกิดผลดีกับประชาชนชัดเจน เพิ่มความใกล้ชิดระบบการทำงานร่วมระหว่างผู้จัดบริการกับกองทุนสุขภาพ เป็นไปตามเจตนารมณ์กฎหมาย มั่นใจว่าสุขภาพคนไทยจะดีขึ้นกว่านี้   

นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ ประธานคณะกรรมการพัฒนานโยบายและการบริหารของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ประชุมคณะกรรมการพัฒนานโยบายฯ ที่มีจำนวน 21 คน โดยมีนายแพทย์สุจริต  ศรีประพันธ์ เป็นประธานที่ปรึกษา ให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบสุขภาพ พัฒนาใน 3 เรื่อง ได้แก่ ระบบบริการในรูปแบบเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข การบริหารจัดการการเงินการคลังทั้ง 3 กองทุนสุขภาพให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ และการสร้างระบบธรรมาภิบาล โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และขวัญกำลังใจบุคลากร ให้ทำงานอย่างมีความสุข
นายแพทย์วัลลภกล่าวต่อว่า  คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่ารูปแบบการบริหารจัดการระบบบริการในรูปแบบเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งมี 12 เขตในภูมิภาค และในเขตกทม. เป็นการปฏิรูปการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้จัดบริการ กลุ่มผู้ซื้อบริการ และกลุ่มติดตามกำกับมาตรฐานบริการ ทำให้เกิดประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด มีสุขภาพดีขึ้น เกิดการทำงานเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างของเขตสุขภาพกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้จัดบริการ กับสำนักงานเขตของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและกองทุนสุขภาพอื่นๆ ในฐานะผู้บริหารจัดการงบประมาณกองทุน ให้เป็นตามเจตนารมณ์กฎหมายของแต่ละกองทุน และที่ประชุมได้ขอให้เพิ่มการจัดบริการเขตสุขภาพในกทม. เนื่องจากในกทม.มีประชาชนหนาแน่น แต่เข้าถึงบริการได้น้อยกว่าคนต่างจังหวัด ทั้งนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีการหารือกับรองผู้ว่ากทม.ไว้แล้ว  
นายแพทย์วัลลภชี้แจงว่า คณะกรรมการฯ รู้สึกประทับใจในความคืบหน้าของเขตสุขภาพที่ผ่านมาหลังจากที่ได้มีการจัดบริการร่วมและการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลทุกระดับภายในเขตสุขภาพ พบว่าส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลดีขึ้นในหลายโรค เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ ขณะนี้ทุกเขตมีโรงพยาบาลที่สามารถให้การรักษาได้อย่างทันท่วงที ลดอัตราตายลงเหลือไม่ถึงร้อยละ 10 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 17 รวมทั้งได้รับยาละลายลิ่มเลือดและการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 40-50 เป็นร้อยละ 50-60 เป็นต้น มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลเล็กใหญ่ในการดูแลผู้ป่วยร่วมกันภายในเขต  จึงเห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขเดินมาถูกทางแล้ว และจะเกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า จึงมั่นใจว่าสุขภาพไทยจะดีขึ้นไปกว่านี้ 
นายแพทย์วัลลภกล่าวสรุปว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงฯ ตั้งสำนักงานเขตสุขภาพประจำทั้ง 13 เขต เป็นหน่วยงานภายในไปก่อน เพื่อให้การดำเนินงานเขตสุขภาพเป็นไปอย่างคล่องตัว และให้มีการตั้งคณะกรรมการเขตสุขภาพให้ชัดเจน เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายอำนาจการบริหารไปสู่พื้นที่ โดยคณะกรรมการควรมีผู้แทนจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในเขต มีผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เป็นประธาน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และมีธรรมาภิบาล
*********************************   30 ตุลาคม 2557


   
   


View 11    30/10/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ