รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนกอย่างเข้มข้นในฤดูฝน เพราะสภาพอากาศเอื้อโรคระบาดง่าย พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้เป็นพิเศษ 20,000 คน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ไม่สงบ เข้ารับการรักษาได้ยากลำบาก แนะผู้ที่เป็นหวัดไอจามบ่อย ให้คาดหน้ากากอนามัย ป้องกันเชื้อแพร่สู่คนอื่น ชี้การใช้มือปิดเวลาไอจามไม่ได้ผล
บ่ายวันนี้ (9 กรกฎาคม 2550) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยแพทย์หญิงทิพย์วดี บำพ็ญบุญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เปิดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้ผู้สูงอายุในจังหวัดสงขลา จำนวน 200 คน ที่โรงพยาบาลสงขลา จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค ป้องกันไม่ให้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสนใจโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากคาดว่าอยู่ในระยะที่อาจเกิดการระบาดใหญ่ ซึ่งแต่ละปีคนในยุโรป อเมริกาป่วยจากโรคนี้จำนวนมาก ในส่วนของประเทศไทยมักพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และปลายฤดูหนาวระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในปีนี้สัญญาณฝนมาเร็วและมีปริมาณมากกว่าปกติ สภาพอากาศเช่นนี้คาดว่าจะทำให้มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบมากกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะภาคใต้อาจมีผู้ป่วยเพิ่มในเดือนพฤศจิกายน และสภาพอากาศเย็นชื้นเช่นนี้ ส่งผลให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกมีชีวิตอยู่ดีขึ้นด้วย ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เฝ้าระวังทั้งในคน สัตว์ และเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของเชื้อ และให้แพทย์โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนกอย่างเข้มข้น และหากมีผู้ป่วยที่มีอาการน่าสงสัย ให้สอบสวนโรคโดยละเอียดและควบคุมโรคทันที
ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันป้องกันโรค หากมีสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือ อสม.ทันที อย่าใช้มือเปล่าจับซากสัตว์ปีกเป็นอันขาด และให้ดูแลลูกหลานโดยเฉพาะเด็กๆ อย่าให้เล่นคลุกคลีกับสัตว์ปีก นายแพทย์มงคลกล่าว
สำหรับสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในรอบ 6 เดือนแรกปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2550 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 7,194 ราย เสียชีวิต 6 ราย ในภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2549 พบว่าจำนวนผู้ป่วยในปีนี้ น้อยกว่าเกือบ 300 ราย ตลอดเดือนมิถุนายน 2550 มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 845 ราย ไม่มีเสียชีวิต ส่วนการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในปีนี้ยังไม่พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่
นายแพทย์มงคล กล่าวต่อไปว่า มาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ จะดำเนินการทั้งการใช้วัคซีนและมาตรการป้องกันที่ไม่ต้องใช้วัคซีน โดยได้จัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 300,000 โดส ฉีดป้องกันในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วย ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ประจำห้องตรวจชันสูตรเชื้อโรค และกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำลายสัตว์ปีก ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด เพื่อไม่ให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ และฉีดให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 20,000 คน โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคปอด เพราะหากป่วยแล้ว จะมีอาการรุนแรง เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งอาจเข้ารับการรักษาได้ยากลำบากกว่าที่อื่นๆ จึงต้องเสริมสร้างภูมิป้องกันโรคให้มีเพียงพอที่จะไม่ป่วยจากโรคดังกล่าว โดยหลังฉีดจะเกิดภูมิต้านทานโรคใน 2 สัปดาห์ และป้องกันได้ 1 ปี
สำหรับการป้องกันที่ไม่ต้องใช้วัคซีน ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะรณรงค์ให้ประชาชนที่เป็นไข้หวัดและไอจามบ่อยๆ ให้คาดหน้ากากอนามัย เพื่อดักสิ่งที่ไอจามซึ่งมีเชื้อโรคปนเปื้อนออกมาไม่ให้แพร่ในอากาศ หากไม่มีให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากจมูกเวลาไอจามแทน ไม่ควรใช้มือปิด เพราะเชื้อจะติดที่มือ เปื้อนสิ่งของอื่นแพร่ต่อไปได้ และให้ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งจะขจัดเชื้อได้ถึงร้อยละ 20 มีรายงานว่าเชื้อไวรัสมีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิทั่วไปในไทยได้นานถึง 1-2 วัน และสามารถติดมายังมือคนได้ใน 24 ชั่วโมง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการเข้มข้นในกลุ่มแพทย์พยาบาลที่ดูแลคนป่วย เจ้าหน้าที่ห้องชันสูตรโรค ให้คาดหน้ากากอนามัยและล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาลผู้ป่วย ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการติดเชื้อและไม่นำเชื้อไปแพร่สู่คนป่วยอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ การป้องกันที่ได้ผลอีกวิธีหนึ่งก็คือ การออกกำลังกายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ควรปฏิบัติให้ได้วันละ 30 นาทีอย่างต่ำ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค ไม่เจ็บป่วยง่าย นายแพทย์มงคลกล่าว
*************************** 9 กรกฎาคม 2550
View 15
09/07/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ