สาธารณสุขเฝ้าระวังโรคเมอร์ส โค-วี หรือโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ 2012 เน้นกลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลาง แนะประชาชนหลังเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยภายใน 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก อาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง ขณะนี้ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคนี้ สถานการณ์โรคเมอร์ส-โควี จนถึง 4 มิถุนายน 57 พบผู้ป่วย 815 ราย เสียชีวิต 313 ราย ใน 21 ประเทศ

      นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังโรคเมอร์ส โควี หรือโคโรน่า ไวรัส สายพันธุ์ 2012  ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินลมหายใจที่มีอันตรายใกล้เคียงกับโรคซาร์ส มีพื้นที่ระบาดอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง และบางประเทศในยุโรป  แม้ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยก็ตาม แต่มีความเสี่ยงอาจพบผู้ติดเชื้อได้จากการเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศตะวันออกกลาง  โดยได้จัดระบบการเฝ้าระวัง 2 ระดับ ได้แก่ 1.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งในและนอกสังกัด โรงพยาบาลเอกชน  เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคนี้  ควบคู่กับโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก  ให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมการติดเชื้อเป็นกรณีพิเศษในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับการป้องกันโรคซาร์ส โดยได้จัดทำคู่มือแนวทางการดูแลรักษาการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล แจกให้กับโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศแล้ว

       2.จัดระบบการเฝ้าระวังในชุมชน โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสม. และเพิ่ม อสม.ฮัจย์  เพื่อติดตามอาการป่วยชาวไทยมุสลิม ที่เดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลางหลังเดินทางไปแสวงบุญ ป็นเวลา 14 วันหากพบผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ  และมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศตะวันออกกลาง ให้แจ้งสำนักระบาดวิทยาทันที   เพื่อเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคตามมาตรฐานที่กำหนด

       ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ 2012   วันที่ 4 มิถุนายน 2557  ศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งยุโรป (European Centre for Disease Prevention and Control) รายงานพบผู้ป่วยยืนยัน 815 ราย เสียชีวิต 313 ราย ใน 21 ประเทศ<



   
   


View 8    21/09/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ