กระทรวงสาธารณสุข เตรียมฟื้นความรู้วิชาการ เพิ่มศักยภาพให้อาสาสมัครสาธารณสุขจากทุกหมู่บ้าน ทั่วไทยกว่า 2 แสนคน ตั้งเป้าพัฒนาอสม. ถึงขั้นเป็นพนักงานผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัย และเพิ่มบทบาท อสม.เป็นตัวอย่างส่งเสริมประชาธิปไตย ให้ยึดหลัก “ 3 ต้อง 2 ไม่ ” คือต้องไปเลือกตั้ง ต้องเลือกคนดี ต้องมีศักดิ์ศรีและหวงสิทธิเสรีภาพของตนเอง และไม่รับเงินไปเลือกตั้งและไม่แตกสามัคคีก่อนและหลังเลือกตั้ง วันนี้ (8 กรกฎาคม 2550) ที่ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 400 คน จากทั่วประเทศ จังหวัดละ 5 คน เพื่อเป็นวิทยากรระดับจังหวัด ซึ่งจะไปทำหน้าที่ฝึกอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขในจังหวัดพื้นที่ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพของอสม.ในปี 2550 เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสาธารณสุขทั้งในปัจจุบันและอนาคตเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 6 - 8 กรกฎาคม 2550 กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดๆละ 5 คน เพื่อเตรียมตัวเป็นวิทยากร ฟื้นฟูความรู้ เรื่องโรคภัยต่างๆ ครอบคลุมร่างกาย จิตใจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยเน้นหนักความรู้เรื่องโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ มะเร็ง ที่กำลังเป็นปัญหา งานสุขภาพจิต ผู้สูงอายุ การฟื้นฟูสภาพผู้พิการ/ผู้ด้อยโอกาส งานอนามัยแม่และเด็ก อาหารปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้ฟื้นฟูการค้นหาปัญหาสุขภาพของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งการจัดทำแผนสุขภาพของชุมชนด้วย สามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดให้อาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งจะจัดอบรมทุกจังหวัด ในวันที่ 9 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2550 จำนวน 223,281 คน ซึ่งมาจาก 74,427 หมู่บ้านทั่วประเทศ หมู่บ้านละ 3 คน นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)จัดเป็นแกนนำด้านสุขภาพในชุมชน รู้ปัญหาในชุมชนของตนเอง มีส่วนร่วมกับองค์กรต่างๆในท้องถิ่นในการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายจะพัฒนาศักยภาพอสม.ให้มีความรู้เท่าทันโรคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตั้งเป้าพัฒนาเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 1 คือ ระดับพื้นฐานทั่วไป คือ อสม.ที่ทำงานในปัจจุบัน ระดับ 2 เป็นอสม.ที่ได้รับการพัฒนาให้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเช่น ด้านยาเสพติด การควบคุมโรค การส่งเสริมสุขภาพ เรียกว่า อสมช. สามารถมอบงานสำคัญๆด้านสุขภาพ โดยให้ค่าตอบแทนในการปฎิบัติงาน เช่น งานควบคุมโรคไข้หวัดนก และระดับที่ 3 เป็นอสม.ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถว่าจ้างเป็นพนักงานผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัย(พสอ.) สัญญาจ้างปีต่อปีได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูล “นอกจากงานด้านสุขภาพแล้ว อสม. ได้รับมอบหมายบทบาทในการการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นอาสาสมัครประชาธิปไตย (อสม.ป) ตามคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ อสม.ปฎิบัติตนให้สมกับแกนนำในหมู่บ้านโดยยึดหลักการ 3 ต้อง 2 ไม่ ดังนี้ 1.ต้องไปเลือกตั้งและสนใจรัฐธรรมนูญ 2.ต้องเลือกคนดี ที่จะเชื่อได้ว่าจะช่วยพัฒนาประเทศ 3. ต้องมีศักดิ์ศรีและหวงสิทธิเสรีภาพของตนเอง และ 2 ไม่ ได้แก่ ไม่รับเงินหรือรับคำสั่งใครไปเลือกตั้ง และไม่ทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกความสามัคคีก่อนและหลังเลือกตั้ง”นายแพทย์วัลลภกล่าว **************************************** 8 กรกฎาคม 2550


   
   


View 9    08/07/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ