ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ห่วงอุบัติเหตุขากลับฉลองสงกรานต์ คนขับอาจเหยียบรถเร็ว เพราะใจร้อน อยากถึงบ้านเร็ว เตรียมพร้อมโรงพยาบาลโดยเฉพาะที่ตั้งริมเส้นทางหลวง 5สายหลัก รับผู้บาดเจ็บ ป้องกันเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด และให้โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังเทศกาล ย้ำเตือนประชาชน หากมีอาการป่วย มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ กินยาลดไข้แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ขอให้รีบพบแพทย์รักษา ป้องกันอาการรุนแรงแทรกซ้อนอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
วันนี้(15 เมษายน 2557) นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเตรียมการรับมืออุบัติเหตุจราจรช่วงขากลับจากการฉลองสงกรานต์ ทั้ง 2จังหวัดนี้มักเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุได้บ่อย และให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เน้นหนักโรงพยาบาลที่อยู่ตามเส้นทางหลวงหลัก 5 สาย คือ ถนนพหลโยธิน เอเชีย มิตรภาพ เพชรเกษม และสุขุมวิท ซึ่งมีประมาณร้อยละ 50 ของโรงพยาบาลทั้งหมด และโรงพยาบาลที่อยู่แถบปริมณฑลใกล้กทม.ให้จัดทีมแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมรถพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ครบครัน เพื่อรับมืออุบัติเหตุในช่วงขากลับ วันที่ 15-16 เมษายน 2557ที่อาจเกิดจากอาการอ่อนเพลีย นอนไม่พอ หลับใน โดยประชาชนส่วนใหญ่มักใจร้อน จะขับรถเร็วเพราะอยากถึงบ้านเร็วๆ เพื่อพักผ่อนก่อนเริ่มทำงาน ต้องขอความร่วมมือประชาชน ให้โทรแจ้งสายด่วนกู้ชีพ 1669หากพบมีผู้บาดเจ็บไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามทีมแพทย์แพทย์กู้ชีพ พร้อมออกปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาอุบัติเหตุจราจรแล้ว เรื่องที่เป็นห่วงหลังเทศกาลสงกรานต์มี อีก 2 เรื่อง คือ ปัญหาเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะอาหารทะลุ เนื่องมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก จะพบได้ทุกปีหลังเทศกาลประมาณ 2-3วัน ได้ให้โรงพยาบาลสำรองคลังเลือดทุกหมู่ไว้ให้เพียงพอ รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ และเรื่องที่ 2 คือให้เฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องมาจากการเล่นน้ำและสวมใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นแฉะ เป็นเวลานาน รวมทั้งการตากตรำ พักผ่อนน้อย ทำให้ภูมิต้านทานโรคต่ำลง รวมทั้งการเดินทางที่แน่นแออัด และเป็นได้ทุกวัย
อาการป่วยจากไข้หวัดใหญ่ จะปรากฏหลังติดเชื้อ 1-4 วัน มักเริ่มด้วยมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ อ่อนเพลีย ประชาชนบางคนคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา หากมีอาการดังกล่าวขอให้คาดหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และงดการเดินทาง หยุดพักผ่อนที่บ้านจนกว่าอาการจะดีขึ้น หากกินยาลดไข้แล้ว แต่ไข้ยังไม่ลดภายใน 2 วัน ขอให้พบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ป้องกันอาการแทรกซ้อนรุนแรงโดยเฉพาะโรคปอดบวม ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต โดยขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งมียาต้านไวรัสใช้รักษาโรคนี้ ได้ผลดี ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2557 นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงวันนี้ ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 28,607 ราย เสียชีวิตแล้ว 31 ราย
********************************* 15 เมษายน 2557
View 19
15/04/2557
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ