รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานมหกรรมแพทย์แผนไทย ปี 2557 ภาคอีสานทีจังหวัดสกลนคร รณรงค์หนุนการนำสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ภูมิปัญญาไทย ใช้ในการดูแลสุขภาพ  สร้างรายได้ครอบครัวและชุมชน  ตั้งเป้าส่งเสริมให้คนไทยใช้ยาสมุนไพรไทย รักษาอาการเจ็บป่วยร้อยละ 10 และเพิ่มบริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในสังกัดด้วยการแพทย์แผนไทยให้ได้ร้อยละ 14  ของผู้ป่วยนอกที่ใช้บริการทั้งหมด  พร้อมเปิดตัวบริการ ฝังเข็มหน้าเด้งของโรงพยาบาลพระอาจารย์แบนฯ จ.สกลนคร  เพื่อรักษาโรคปากเบี้ยว และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดลมบนใบหน้าดี  ช่วยให้หน้าเด้ง มีน้ำมีนวล กระชากวัยได้ 

วันนี้ (17 มีนาคม 2557ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร จ.สกลนคร นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ผศ.(พิเศษ) ดร.นพ.ธวัชชัย  กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์ปรเมษฐ์  กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร  เปิดงาน รวมพลังแพทย์แผนไทยอีสานสู่ปณิธานเป็นแพทย์แผนหลักของไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมเผยแพร่งานแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและสมุนไพร ของ 20 จังหวัดภาคอีสาน ในโครงการมหกรรมการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ปี 2557 พร้อมมอบเกียรติบัตรหมอพื้นบ้านดีเด่น เกียรติบัตรมาตรฐานนวดไทย โดยมีผู้บริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย อสม. นักเรียน นักศึกษา ประชาชนร่วมงานกว่า 55,000 คน

นายสรวงศ์  กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งการแพทย์ทางเลือกมาใช้ในการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วย และฟื้นฟูสุขภาพ  เป็นการดูแลสุขภาพแบบการแพทย์แผนไทย มีลักษณะพิเศษเฉพาะคือ ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจดุจญาติมิตร ในปี 2557 นี้ เน้นรณรงค์ ส่งเสริมให้คนไทยใช้ยาสมุนไพรไทยที่ผ่านการศึกษาวิจัยมาตรฐานประสิทธิภาพมาแล้ว เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน มาใช้รักษาอาการเจ็บป่วย ตั้งเป้าให้ได้ร้อยละ 10 และมีนโยบายเพิ่มบริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในสังกัดด้วยการแพทย์แผนไทยจากบุคลากรแพทย์แผนไทยสมัยใหม่ ให้ได้ร้อยละ 14   ของผู้ป่วยนอกที่ใช้บริการทั้งหมด   เพื่อลดการนำเข้ายาต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ยาที่ใช้ในประเทศไทย ร้อยละ 70 เป็นยานำเข้าจากต่างประเทศ 

 ด้านผศ.(พิเศษ) ดร.นพ.ธวัชชัย  กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในการจัดงาน “รวมพลังแพทย์แผนไทยอีสาน สู่ปณิธานเป็นแพทย์แผนหลักของไทย” ที่ จ.สกลนคร  ระหว่างวันที่  17-21 มีนาคม 2557 ครั้งนี้  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย  ภายในงานมีการประชุมวิชาการด้านการแพทย์แผนไทย มีนิทรรศการแสดงผลงานภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยของเครือข่าย 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ การแสดงพื้นบ้าน ประกวดส้มตำสมุนไพรลีลา ค็อกเทลสมุนไพรไร้แอลกอฮอล์ สาธิตการรักษาด้วยแพทย์พื้นบ้าน ประกวดการทำลูกประคบลีลา   นวดแผนไทย นวดนาคราชคืนชีพ จัดประกวดพืชสมุนไพรหายาก พืชสมุนไพรขนาดใหญ่เป็นต้น  และที่สำคัญได้เปิดบริการ ฝังเข็มหน้าเด้ง ซึ่งเป็นบริการของโรงพยาบาลพระอาจารย์แบน   ธนากโร อ.ภูพาน  จ.สกลนคร  รักษาฟื้นฟูผู้ป่วยโรคปากเบี้ยว หนังตากระตุก และมีผลช่วยทำให้หน้าเด้งได้ด้วย   โดยหลังบริการพบว่าได้ผลดี เหมือนใช้บริการในคลินิกเสริมความงาม ราคาถูก                             

ด้าน นายแพทย์โสภณ  วัณไวทยจิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระอาจารย์แบน  ธนากโร  กล่าวว่า โรงพยาบาลฯ ได้เปิดให้บริการฝังเข็มเพื่อการรักษาโรค และฝังเข็มหน้าเด้ง ตั้งแต่พ.ศ. 2548 และได้นำเปิดตัวในงานมหกรรมฯครั้งนี้ตลอด 5 วันที่จัดงาน  ในการฝังเข็มหน้าเด้ง  ผู้ที่จะเข้ารับบริการต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป  ก่อนการฝังเข็ม แพทย์ต้องทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย โดยคลำชีพจรและดูลิ้นเป็นหลักก่อนการฝังแต่ละครั้ง จะฝังไว้ที่ใบหน้า แขน ขา ไม่ต่ำกว่า 20 เข็ม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที  มีทั้งการรักษาแบบครั้งเดียว หรือหลายครั้งก็ได้ เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียง  ค่าใช้จ่ายประมาณ 100 บาทขึ้นไป  หลังฝังเข็มแล้ว จะต้องดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย งดอาหารประเภทหมักดอง มัน หวาน เค็ม  โดยคุณสมบัติของการฝังเข็มจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดลมบนใบหน้าดี บำรุงอวัยวะภายในร่างกาย ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย  จึงทำให้ใบหน้าสดใส มีน้ำมีนวลขึ้น

ส่วนการฝังเข็มเพื่อการรักษา จะให้ผลดีในผู้ที่มีปัญหาปากเบี้ยว หนังตากระตุก หากเริ่มมีอาการ 1-2 สัปดาห์  มีโอกาสที่จะหายเป็นปกติสูง   หากเป็นมานานมากกว่า 6 เดือน  ต้องใช้เวลานาน  ข้อดีของการฝังเข็ม จะช่วยลดการใช้ยาหรืออาจจะไม่ใช้ยาเลย  ลดความเครียด ลดอาการปวดในร่างกาย และชะลอวัยได้    มีข้อเสียบ้างคืออาการเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ  หรือเป็นรอยช้ำ    โดยโรงพยาบาลฯ  ให้บริการนอกเวลาราชการ 16.00 น. เป็นต้นไป ในวันอังคารและวันพฤหัสบดี (หรืออาจเลื่อนเป็นวันจันทร์ พุธ หรือศุกร์)  

                                                                                           ******************************  17 มีนาคม 2557



   
   


View 8    17/03/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ