กระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังชาวไทยมุสลิมหลังเดินทางกลับจากพิธีฮัจย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฎิบัติการ ไม่พบผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด ทุกรายอาการดีขึ้น
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีสื่อมวลชนให้ข่าวว่าพบผู้แสวงบุญที่เพิ่งเดินทางกลับจากพิธีฮัจย์ป่วยมีอาการคล้ายโรคโคโรน่าไวรัส ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรน่าไวรัสแต่อย่างใด จากการจัดระบบเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย มีผู้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 – 27 ตุลาคม 2556 ลงเครื่องที่สนามบินนราธิวาส ภูเก็ตและสนามบินหาดใหญ่ รวม 4,561 คน รวม 42 เที่ยวบิน
ผลการตรวจผู้ที่มีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวังโรคตามนิยาม พบผู้ป่วยปอดอักเสบ 4 ราย เป็นหญิงทั้งหมด รักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการไม่พบการติดเชื้อไวรัสโ คโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว เช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคถุงลมปอดโป่งพอง ผู้ป่วยทุกรายได้รับการรักษาตามแนวทางปกติและมีอาการดีขึ้นแล้วทุกราย ซึ่งอัตราการเกิดปอดบวมพบ 1 ใน 1,000 ราย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบการดูแลชาวไทยมุสลิมก่อนเดินทางกลับ โดยผ่านการตรวจร่างกายจากหน่วยแพทย์ไทยที่ไปประจำที่นครมักกะห์ และมีการประสานงานกับทีมแพทย์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รายใดที่มีไข้จะให้รักษาตัวจนอาการหาย จึงให้เดินทางกลับ และตั้งจุดให้คำแนะนำ การดูแลสุขภาพที่สนามบินแจกคำแนะนำ หากเกิดอาการไข้ ไอ หอบ หลังกลับจากซาอุดิอาระเบีย ให้สงสัยไว้ก่อนแล้วรีบไปพบแพทย์ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้แสวงบุญรายใดติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ระหว่างแสวงบุญที่ นครมักกะห์
“ขอให้ประชาชนไทยมั่นใจระบบการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 1 เดือนนับจากเดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบีย และสร้างเครือข่าย อสม.ฮัจย์ เป็นผู้ประสานงานระดับพื้นที่ และมีมิสเตอร์ฮัจย์ (Mr.Hajj) ทั้งในระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับประเทศ รวมทั้งหมด 124 คน กระจายทั่วประเทศ 54 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร ” นายแพทย์โสภณกล่าว
และขอย้ำหากผู้ที่ไปแสวงบุญที่กลับจากฮัจย์ไม่สบาย เช่น มีไข้ ไอ หายใจหอบ เหนื่อย หรืออื่นๆ ให้ไปปรึกษาแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางในต่างประเทศที่ผ่านมา เพื่อให้การดูแลอย่างถูกต้องและทันท่วงที หากมีข้อสงสัยให้สอบถามที่สายด่วน 1422 หรือทางเวปไซด์ www.ddc.moph.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง
***************************************** 28 ตุลาคม 2556