รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมอธิบดีกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รณรงค์กระตุ้นให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกำจัดลูกน้ำยุงลายทั้งในบ้านและนอกบ้าน สร้างชุมชนสะอาด ปราศจากไข้เลือดออก  

           วันนี้ (22 กันยายน 2556) ที่ชุมชนโคนอน แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายแพทย์ประดิษฐ  สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.กทม. ลงพื้นที่รณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยเจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงในชุมชน แจกชุดผลิตภัณฑ์ป้องกันยุง 600 ชุดประกอบด้วย มุ้งกันยุง ยาทากันยุง สเปรย์ฉีดฆ่ายุง ทรายกำจัดลูกน้ำ หน้ากากอนามัย ไฟฉายส่องลูกน้ำ 600 ชุด คู่มือนวัตกรรมภูมิปัญญาชาวบ้านในการจัดการกับยุงลาย และเอกสารความรู้การป้องกันโรคไข้เลือดออกกว่า 1,000 ชุด ชุดของขวัญสุขอนามัย ประกอบด้วย สบู่เหลว-เจลล้างมือ น้ำยาล้างจาน และยาเบื่อแมลงสาบ 200 ชุด
 
            นายแพทย์ประดิษฐให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สถานการณ์ไข้เลือดออกมีแนวโน้มลดลง สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเพิ่มประมาณ 3,000 กว่าราย จากเดิมที่พบประมาณ  5,000 กว่าราย แต่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากทั่วประเทศยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำขังอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว เศษขยะ ถ้วยโฟม แก้วพลาสติก รวมถึงภาชนะที่เก็บน้ำในบ้าน ทำให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดรณรงค์ให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เมืองใหญ่ๆ ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เช่น กทม.และปริมณฑล เน้นการดูแลปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบๆ บ้าน และภายในบ้านให้สะอาด ส่วนด้านการรักษาได้ให้กรมการแพทย์        จัดอบรมเพิ่มพูนความรู้ด้านการรักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่ โดยในวันที่ 23 กันยายนนี้จะจัดประชุมวิชาการ การวินิจฉัยและระบบดูแลรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกในผู้ใหญ่ แก่แพทย์อายุรกรรม กทม.และภูมิภาค 350 คน ที่โรงแรมนารายณ์ กทม.
 
             ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่ กทม. สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 1 ได้ประสานการทำงานกับสำนักอนามัย กทม.อย่างใกล้ชิด โดยในพื้นที่เขตภาษีเจริญ  ตั้งแต่ 1 มกราคม – 20 กันยายน 2556 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 164 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 125 รายต่อแสนประชากร โดยพบผู้ป่วยที่แขวงบางหว้ามากที่สุด จำนวน 49 ราย รองลงมาคือ แขวงบางแวก 32 ราย แขวงบางด้วน 27 ราย แขวงปากคลองภาษีเจริญ 22 ราย แขวงคลองขวาง 17 ราย แขวงบางจาก 13 ราย และแขวงคูหาสวรรค์ 4 ราย
 
            นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายและทุกครัวเรือน ในการกำจัดลูกน้ำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทั้งการปล่อยปลาหางนกยูงในอ่างบัวหรืออ่างน้ำในบ้าน   โดยหากจะช้อนลูกน้ำทิ้ง ให้นำมาเทใส่อ่างที่มีปลากินลูกน้ำก็จะได้ประโยชน์สองต่อ ขัดล้างและเปลี่ยนน้ำในภาชนะที่มีน้ำขังทุกสัปดาห์ ปิดฝาภาชนะที่เก็บกักน้ำ หากปิดไม่ได้ให้เปลี่ยนน้ำทิ้งทุกสัปดาห์   นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันยุงกัด จุดที่น่าเป็นคือ ห้องน้ำสาธารณะ เช่น วัด หรือมัสยิด บางห้องไม่ได้เปิดใช้ หรือทำความสะอาดเป็นประจำ จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อย่างดีของยุงลาย ดังนั้นขอให้ผู้ดูแลรับผิดชอบ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ หากไม่ใช้ห้องน้ำนั้นควรถ่ายน้ำทิ้งให้หมด เพื่อป้องกันยุงวางไข่ 
 
          ด้านดร.นพ.พรเทพ  ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนที่อยู่ในชุมชนต้องมีการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ถูกสุขลักษณะเพื่อลดภูมิแพ้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก เนื่องจากโรคภูมิแพ้จัดเป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อับทึบ ชื้น มีเชื้อรา หรือฝุ่นละออง ซึ่งเป็นสารกระตุ้นให้เด็กเกิดอาการแพ้ จึงควรจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้สะอาด เป็นระเบียบ โดยเฉพาะห้องนอน ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและรับแสงสว่างจากธรรมชาติ เพื่อลดจำนวนเชื้อรา หมั่นทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลดการสะสมของเศษผิวหนังตกค้าง ซึ่งจะเป็นอาหารของไรฝุ่น และไม่ควรวางตุ๊กตาที่ยัดด้วยนุ่นหรือขนสัตว์ในห้อง เพราะจะเป็นที่เก็บกักฝุ่น และหากพบว่าบริเวณใดของบ้านมีเชื้อรา เช่น ห้องน้ำ ฝาผนังที่ชื้น ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำผสมคลอรีน ซึ่งหากทำความสะอาดทั่วไปให้ใช้คลอรีน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แกลลอน ส่วนการฆ่าเชื้อโรคให้ใช้คลอรีน ¾ ถ้วย ต่อน้ำ 1 แกลลอน พร้อมทั้งเก็บรวบรวมเศษขยะ สิ่งปฏิกูล ใส่ถุงมัดปากถุงให้แน่น เพื่อรอหน่วยงานนำไปกำจัด สำหรับส้วมที่ชำรุดเสียหาย ควรเร่งซ่อมแซมให้ใช้งานได้ดี ไม่มีสิ่งปฏิกูลรั่วไหลออกมาภายนอก และดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ยุง หนู แมลงสาบ ที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกและโรคติดต่อต่าง ๆตามมา
 
            ทั้งนี้ กรมอนามัยได้จัดนิทรรศการเรื่องอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม ส่งเสริมการกินผัก  5 สี ตรวจสุขภาพด้านโภชนาการด้วยเครื่องอินบอดี้ (Inbody) และสาธิตการออกกำลังกาย เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนในชุมชน
กันยายน****************************************** 22 กันยายน 2556


   
   


View 8    22/09/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ