บ่ายวันนี้ (26 มีนาคม 2556) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข   พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวการทบทวนการจ่ายค่าตอบแทนบุคคลากรสาธารณสุขในภาครัฐ ซึ่งในวันนี้ได้มีการแถลง 3 เรื่องคือ 1.การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร 2.งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติขาขึ้น ปี 2557 ที่รวมค่าตอบแทน และ3.การเตรียมจัดบริการช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์

         เรื่องที่ 1.การจ่ายค่าตอบแทน ในวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการการทบทวนค่าตอบแทนบุคคลากรสาธารณสุขในภาครัฐตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอ โดยให้มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายกับค่าตอบแทนตามภาระงาน ให้คงการจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายในพื้นที่เฉพาะและทุรกันดาร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ เขตชุมชนเมือง พื้นที่ปกติ พื้นที่เฉพาะระดับ 1 และระดับ 2 การดำเนินการจะแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 – 31 มีนาคม 2557 ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 เมษายน 2557 – 31 มีนาคม 2558
 
      สำหรับรายละเอียดของพื้นที่โรงพยาบาลชุมชนและอัตราการจ่ายค่าตอบแทน กระทรวงสาธารณสุข และจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและวิชาชีพต่างๆ หารือร่วมกันในวันที่ 27 มีนาคม 2556 และนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีกระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ฯ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงกลาโหม เป็นคณะกรรมการ วันที่ 28 มีนาคม 2556 ก่อนนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ชุดที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 29 มีนาคม 2556 ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีในการประชุม ครม.สัญจรเพื่อทราบในวันที่ 31 มีนาคม 2556
 
      ตามร่างเดิม โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะระดับ 2 ส่วนโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลจะจัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะระดับ 1 เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขที่มีกว่า 20 วิชาชีพจำนวนกว่า 320,000 คน เดินหน้าไปด้วยกันได้ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประชาชน ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขต นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สื่อสารทำความเข้าใจกับบุคคลากรโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปทุกวิชาชีพ ซึ่งขณะนี้บางสาขาวิชาชีพ เช่น พยาบาล ได้เก็บข้อมูลภาระงานพร้อมแล้ว เช่นโรงพยาบาลบ้านบึง จ.ชลบุรี สามารถดำเนินการได้ทันที
เรื่องที่ 2 งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2557 ช่วงขาขึ้น  ที่ขอไปในวงเงินทั้งหมด 189,179.55 ล้านบาท ประกอบด้วยเงิน 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 คือ งบหลักของสปสช. เช่นงบเหมาจ่ายรายหัวและงบบริการต่างๆ วงเงินจำนวน 122,000 ล้านบาท ส่วนที่ 2 เป็นงบส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมเข้าไป คืองบเงินเดือนของบุคลากรหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมต่างๆ รวม 29,952.72 ล้านบาท และเงินค่าตอบแทน 3,000 ล้านบาท  ซึ่งสะท้อนให้เห็นต้นทุนของหน่วยบริการอย่างแท้จริง โดยไม่ได้ เป็นการตัดลดหรือแบ่งมาจากเงินบริหารจัดการรายหัวของ สปสช.แต่อย่างใด ซึ่งเงินดังกล่าวจะทำให้เกิดความมั่นคงในระบบ และจะมีต่อตลอดไป เพราะเป็นเงินค่าแรงที่รวมอยู่ในงบรายหัวแล้ว 
 
        สำหรับเรื่องที่ 3 คือการเตรียมการในช่วงเทศกาลสงกรานต์         ได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมอัตรากำลังให้พร้อมบริการ เนื่องจากในช่วงสงกรานต์ จะมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจำนวนค่อนข้างมาก และได้ให้มีการอนุมัติค่าตอบแทนเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อชดเชยให้เจ้าหน้าที่เสียสละมาทำงานในวันหยุดยาว
โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลบางแห่ง ลาหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยนั้นว่า  เชื่อว่าทุกวิชาชีพทางการแพทย์มีจรรยาบรรณ และสิ่งที่ได้ทำมาตลอดคือการระดมสรรพกำลังของทุกโรงพยาบาล เพื่อให้บริการผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน เชื่อว่าระบบบริการสาธารณสุขพร้อมดูแลเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ หากมีการหยุดงานจริง จะมีบุคลากรจากโรงพยาบาลใกล้เคียง โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เข้าไปช่วยดูแล ซึ่งได้มอบให้ผู้บริหารระดับจังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลระดับเขต ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการให้บริการประชาชน  ซึ่งขณะนี้วิชาชีพต่างๆได้ออกมายืนยันความพร้อมที่จะให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่
 
 ************************************************ 26 มีนาคม 2556


   
   


View 17    28/03/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ