รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ไม่ได้ยกเลิกการจ่ายค่าตอบแทน แต่นำไปบวกเพิ่มในงบรายหัวและจะทำให้เกิดความมั่นคง  มีระเบียบการจ่ายที่เหมาะสมกับวิชาชีพ เป็นที่ยอมรับของสังคม ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างแรงจูงใจในการบริการประชาชนให้มีคุณภาพ เชื่อมั่นในจิตวิญญาณแพทย์ พยาบาล จะทำไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจากการขู่หยุดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันนี้(25มีนาคม2556)ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบดอกไม้ให้กำลังใจหนุนการดำเนินงานเรื่องค่าตอบแทนจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข สหวิชาชีพและอาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศ จำนวนกว่า 4,000 คน ว่า ในวันนี้จะมีการประชุมบอร์ด สปสช. ในการที่จะนำค่าตอบแทนไปอยู่ในงบค่าใช้จ่ายรายหัว ก่อนที่จะนำเข้า ครม. ในวันพรุ่งนี้ เพื่อใช้ระเบียบนี้ในครึ่งปีหลัง วิธีการนี้เป็นการสร้างความมั่นคงในเรื่องค่าตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น ค่างบรายหัวขอไป 2,900 บาทต่อหัว ค่าตอบแทนขอไป 3,000 ล้านบาท เมื่อมาเฉลี่ยจะตกอยู่ที่ 60 บาทต่อหัว งบที่ขอไปก็จะเป็น 2,900 บาทบวกอีก 60 บาทต่อหัว รวมเป็น 2,960 บาท   ซึ่งไม่ใช่ตัดจากค่ารายหัว และเงิน 60 บาทนี้จะผูกอยู่กับค่ารายหัวตลอดไป ไม่ต้องขออนุมัติเป็นปีๆ ซึ่งอาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้  นอกจากนี้ จะมีการจัดทำระเบียบ หลักเกณฑ์การจ่ายที่สอดคล้องกับการทำงานเหมาะสมกับวิชาชีพ ไม่ใช้ระเบียบกลางที่ใช้กับหน่วยงานอื่นๆ เพราะอาจจะขาดความยืดหยุ่น คล่องตัว โดยจะทำ 2 เรื่องนี้นี้ให้ชัดเจนก่อน
          ทั้งนี้ การดำเนินงานจะจัดทำเป็น 2 เฟส แต่ละเฟสต้องมีการประเมินผลทุกครั้ง ได้มอบหลักการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขคือ แต่ละเฟสให้ค่อยๆ ทำ ค่อยๆปรับตัว ประเมินผลทุกครั้ง ซึ่งเมื่อดำเนินการครบทั้ง 2 เรื่องนี้แล้ว ผลที่ได้คือการลดความเหลื่อมล้ำของแต่ละวิชาชีพ รวมทั้งในวิชาชีพเดียวกัน เช่นแพทย์ในส่วนต่างๆที่ทำงานต่างกัน จะได้แรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ที่สำคัญคือ รัฐบาลตอบประชาชนได้ว่าเงินที่เพิ่มให้  ประชาชนได้ประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้น  ไม่ใช่ขอเงินเหมาจ่ายเพิ่มแต่วัดผลไม่ได้ว่าประชาชนได้อะไรเพิ่ม   มั่นใจว่าด้วยภาระงานที่แต่ละวิชาชีพทำ เมื่อนำหลักเกณฑ์การจ่ายแบบ ตามภาระงานเสริมเข้าไป  จะได้เงินเพิ่มขึ้น ที่สำคัญจะเป็นค่าตอบแทนที่เป็นที่ยอมรับของสังคม
          “ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการยกเลิกการจ่ายค่าตอบแทนแต่อย่างใด แต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่าตอบแทนในพื้นที่ที่ยังจำเป็นต้องจ่าย เช่น 3จังหวัดชายแดนใต้ พื้นที่ภูเขา เกาะแก่ง รวมทั้งพื้นที่ที่ความเจริญเข้าไปถึงแต่ไม่มีแพทย์ไปอยู่ เช่น เกาะสมุย ก็จะมีการจ่ายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้แพทย์ไปอยู่  เป็นการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทำให้ดีขึ้น  ที่สำคัญในหลักการแล้ว เงินไม่ลดลง ยกตัวอย่าง โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเคยได้เงินค่าตอบแทน 500,000 บาท ก็จะได้รับเงิน 500,000 บาทเท่าเดิมเพียงแต่เปลี่ยนวิธีการจ่ายภายในโรงพยาบาล  รวมทั้งรัฐบาลตั้งใจจะเพิ่มให้อีก 10-20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อ เติมให้ระบบ ” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว
นายแพทย์ประดิษฐ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ การที่ให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน  เช่นการจัดซื้อยารวม การใช้ทรัพยากรร่วมกัน เมื่อปรับปรุงประสิทธิภาพทุกอย่างแล้ว มีเงินเหลือ  เงินที่เหลือนี้ รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนว่าให้นำกลับไปให้โรงพยาบาลจ่ายเป็นค่าตอบแทนบุคลากรทุกคน ที่เสียสละ พยายามปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น
นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการชุมชุนที่จะเกิดขึ้น  ตนมีความกังวลในเรื่องการแสดงออก  ขอให้ถูกต้อง เหมาะสมกับปัญหา เพราะหากไม่ถูกต้องเหมาะสม จะทำให้ภาพพจน์วิชาชีพในสายตาประชาชนเสื่อมลงหรือไม่ จึงขอฝากถึงผู้ที่จะมาชุมนุมทุกคน การแสดงออกในรูปแบบต่างๆ จะสะท้อนถึงภาพพจน์ ความคิด จุดประสงค์ชัดเจนว่าแสดงออกอย่างนี้เพราะอะไร ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่นั้น หากมีการประกาศหลักเกณฑ์ มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ก็ไม่น่าจะยืดเยื้อ และมั่นใจว่าผู้ที่มารวมกันในวันนี้ มีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำวิชาชีพของเรา ให้เป็นธรรมะที่บริสุทธิ์ ตามพระราชดำรัสของพระบิดา
ส่วนข้อกังวลที่ว่าจะมีการประกาศหยุดงานช่วงสงกรานต์นั้น  ขอเรียนว่า โดยปกติเป็นการหยุดโดยระบบอยู่แล้ว  แพทย์ พยาบาลที่ไม่ได้อยู่เวรก็ได้หยุดอยู่แล้ว เพราะเป็นวันหยุดราชการ แต่โรงพยาบาลทุกแห่งจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล สหวิชาชีพ อยู่เวรดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลในระบบอยู่แล้ว   แต่หากขอหยุดมากกว่าวันหยุดราชการ ก็ขอให้เป็นไปตามภาระงานที่รับผิดชอบ ตนเชื่อในจิตวิญญาณของแพทย์ พยาบาล และไม่เชื่อว่าจะหยุดงาน ทำให้ผู้ป่วยเดือดร้อน  คำขู่ดังกล่าวไม่น่าจะออกมาจากคนที่มาเรียกร้อง  ทั้งนี้ โดยระบบ เรามีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปที่พร้อมจะให้การดูแลผู้เจ็บป่วยอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่ากังวล เนื่องจากมีการเตรียมตัวอยู่ในระบบอยู่แล้ว  นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

********************************************** 25 มีนาคม 2556



   
   


View 8    25/03/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ