รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่ส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล 3 จังหวัดชายแดนใต้  ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขจะให้การดูแลทั้งค่าตอบแทน และเพิ่มค่าตอบแทนตามภาระงานเพิ่มให้ เพื่อให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานที่สุด

             วันนี้ ( 24 มีนาคม 2556 ) นายแพทย์ชลน่าน  ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวัช  เซียศิริวัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 12 เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2556 เป็นต้นมา รวมจำนวน 7 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นอสม.1 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อ.เมืองปัตตานี และนอนรักษาตัวในห้องไอซียู บาดเจ็บที่กระบังลม ตับ กระเพาะอาหาร  ขณะนี้อาการดีขึ้น  แพทย์วางแผนย้ายไปพักรักษาที่หอผู้ป่วยศัลยกรรม เพื่อให้กำลังใจทั้งผู้บาดเจ็บและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่     

        โดยขณะตรวจเยี่ยมมีเหตุระเบิดที่อ.สายบุรี ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 4 นาย โดย 3 รายนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลปัตตานี เนื่องจากอาการสาหัส มีบาดแผลที่ลำคอ 2 ราย แพทย์เย็บแผล ส่งเอ็กซเรย์ไม่พบอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ และอีก 1 รายได้รับบาดเจ็บที่สมอง แพทย์ส่งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ และรับตัวไว้สังเกตอาการต่อ

           นายแพทย์ชลน่านให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บทุกรายพ้นขีดอันตรายแล้ว มีขวัญกำลังใจดี โดยผู้บาดเจ็บที่เป็น อสม.กระทรวงสาธารณสุขได้มีกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือ อสม.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ผู้บาดเจ็บได้รับไม่น้อยกว่า 10,000 บาท กรณีเสียชีวิตก็จะมีเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิ อสม.มาเสริมอีก นอกจากนี้ก็จะมีความช่วยเหลือจากรัฐบาลทั้งกรณีเสียชีวิต และบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบ จะได้รับการชดเชยเยียวยาตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนดไว้

             นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ อาทิ แพทย์ พยาบาลนั้น กระทรวงสาธารณสุขเห็นความตั้งใจและความยากลำบาก ของบุคลากร ซึ่งการทำงานมีอุปสรรคมาก จากเหตุความไม่สงบ มีนโยบายให้ขวัญกำลังใจชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อให้เอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดศักยภาพในการปฏิบัติงานทั้งเรื่องการฝึกอบรมบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์และการบริหารจัดการ โดยโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จะได้รับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายที่ ครม.เห็นชอบ เช่นเดียวกับโรงพยาบาลในพื้นที่พิเศษทุรกันดารอื่นๆ และจะเพิ่มเติมเงินค่าตอบแทนตามภาระงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับทุกวิชาชีพให้อีก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายให้ครม.เห็นชอบ และจะประกาศใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 เป็นต้นไป

****************************************** 24 มีนาคม 2556

 



   
   


View 8    24/03/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ