กระทรวงสาธารณสุข ลงนามร่วมกับกระทรวงกลาโหม กองทัพบก-เรือ-อากาศ เพิ่มพื้นที่ปลอดการขายการโฆษณา และการดื่มเหล้าในที่ห้าม ปกป้องความปลอดภัยกำลังพลและครอบครัว พร้อมประกาศดี-เดย์ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ตรวจจับ ลงโทษการโฆษณาเหล้า หรือการส่งเสริมการขายเหล้าทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป ชี้ 2 เรื่องนี้เป็นการฝ่าฝืนที่พบถี่ที่สุด        

            วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2556)ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามความร่วมมือกับพลอากาศเอกวินัย เปล่งวิทยา รองปลัดกระทรวงกลาโหม พลอากาศเอกธัชชัย ถนัดใช้ปืน รองเสนาธิการทหาร ตัวแทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเรือเอกไกรสร  จันทร์สุวานิชย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ พลอากาศเอกทรงธรรม  โชคคณาพิทักษ์  ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ  และพลเอกดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก เพื่อกำหนดให้พื้นที่ในสถานที่ราชการของ 4 หน่วยงานดังกล่าวปลอดเหล้า เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551  

          นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่กำลังพลที่อยู่ในสังกัด รวมทั้งครอบครัวและประชาชนทั่วไปด้วย  โดยทุกหน่วยงาน จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 4 ประการดังนี้ 1.จัดให้สถานที่ราชการ และสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแล ปลอดการขายและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 2.ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแล  และ 3.ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเฉพาะในร้าน หรือสโมสรที่เปิดให้บริการเป็นประจำหรือถาวร  และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากสถานที่ราชการนั้นๆ เท่านั้น และ 4.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และให้ขายได้เฉพาะเวลาที่กำหนดในกฎมายเท่านั้น คือเวลา 11.00-14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00น.-24.00 น.

          ทั้งนี้ ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง ช่วยกันตรวจตราและเอาผิดผู้ที่ละเมิดกฎหมาย  รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามร้านค้าในชุมชนหรือบริเวณใกล้เคียง และเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายด้วย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ประชาชนทั่วไป และเยาวชนที่จะเติบโตไปเป็นอนาคตที่เข้มแข็งของชาติ

 

          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า หลังจากประกาศใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 รวมเป็นเวลา 5 ปี พบว่าปัญหาที่พบได้บ่อยและมีการกระทำผิดกฎหมาย จนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ คือการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางป้าย ป้ายไฟ ติดตั้งอยู่ข้างทาง หรือตามหน้าร้านอาหารทั่วประเทศ และการส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม ชิงโชคชิงรางวัล พบว่ามีการทำผิดซ้ำซากมากเป็นอันดับ 1 ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องนี้ ดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป เนื่องจากการโฆษณาจะเป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนหรือเยาวชนรู้จักยี่ห้อเครื่องดื่ม และจำตราสินค้าได้แม้จะเป็นแค่สีหรือเป็นเงาสัญลักษณ์ของยี่ห้อเครื่องดื่ม โดยได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ รวมประมาณ 900 แห่ง  ตรวจจับอย่างจริงจังบนถนนทุกเส้นในพื้นที่เมืองและชนบท  หากพบการกระทำผิดให้แจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง  หรือรวบรวมหลักฐานส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เพื่อส่งฟ้องศาลดำเนินคดีทุกราย  โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากยังมีการฝ่าฝืนอยู่ จะมีโทษปรับรายวัน วันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ส่วนการส่งเสริมการตลาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ทางด้านนายแพทย์สมาน  ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลสำรวจสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครอบครัวไทยกลุ่มที่อยู่ในชานเมืองล่าสุดในปี 2555 โดยนักวิชาการเครือข่ายเฝ้าระวังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า เด็กอายุ 12 ปี จะรู้จักผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 12 ชนิด 15 ยี่ห้อ และรู้ราคา 7 ยี่ห้อ แสดงถึงการโฆษณามีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเด็กอย่างชัดเจน

                                                                                                                         ************************************ 13 กุมภาพันธ์ 2556

 

 



   
   


View 18    13/02/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ