ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนเชื้อสายจีนที่เผากระดาษเงิน/ทอง สิ่งของเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ทำจากกระดาษสี  ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ให้เผาในที่โล่งอากาศถ่ายเทสะดวก  หลีกเลี่ยงการสูดดมหรือการสัมผัสควันจากการเผาโดยตรง  ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากจมูก เพื่อป้องกันการสูดไอระเหยของสารเคมีที่อยู่ในสีเคลือบกระดาษ  และหลีกเลี่ยงการสูดดมควัน ธูป เทียน เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง

    นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนจะทำพิธีบูชาเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยการจุดธูป เทียน เผากระดาษเงิน กระดาษทอง และสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำมาจากกระดาษสีต่างๆ เช่น เครื่องประดับ รถยนต์ และเครื่องแต่งกาย  เป็นต้น ทั้งในศาลเจ้า วัด  อาคารย่านธุรกิจ และบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ซึ่งธูป เทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง ของใช้อื่นๆ ที่ทำมาจากกระดาษ  ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของสารเคมี เมื่อถูกความร้อนจากการเผาหรือจุดไฟ จะก่อให้เกิดไอระเหยของสารเคมีบางประเภทที่ส่งผลต่อสุขภาพ สูดดมเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง

      นายแพทย์ณรงค์  กล่าวว่า  ในการป้องกันผลกระทบจากการสัมผัสหรือสูดดมควันธูปเทียน และควันจากการเผากระดาษ ประชาชนที่ทำพิธีเซ่นไหว้ ควรจุดธูปเทียน เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก  หลีกเลี่ยง การพักผ่อนหรือนอนหลับในห้องหรือบริเวณที่มีการจุดธูปเทียน หรือเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ในส่วนของศาสนสถาน เช่น ศาลเจ้า วัด เป็นต้น ควรตั้งกระถางธูป เตาเผา หรือภาชนะเผากระดาษเงิน กระดาษทองไว้นอกอาคาร  เลือกใช้ธูปขนาดสั้นแทนธูปขนาดยาว เมื่อเสร็จพิธีแล้วควรดับไฟ  ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาสนสถาน ควรสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการสูดดมหรือสัมผัสกับควันดังกล่าวเป็นเวลานานๆและต่อเนื่อง ให้ล้างมือ ล้างหน้า ล้างตาให้บ่อยขึ้นหลังสัมผัสควันทุกครั้ง และไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง    

  ทางด้านนายแพทย์เจษฎา  โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ในธูปเทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง จะมีสารเคมี ฝุ่นละออง คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ รวมทั้งสารตะกั่วในสีเคลือบกระดาษ หากเผาเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน และเผาในที่อับอากาศ จะทำให้ไอระเหยของสารเคมี ฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศบริเวณนั้น และเมื่อสูดหายใจเข้าไปเป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ได้รับสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายได้ และเมื่อสะสมในร่างกายจำนวนมากเป็นเวลานาน มีโอกาสจะก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง เวียนศีรษะ และโรคระบบทางเดินหายใจ

     ส่วนธูป เมื่อจุดไฟจะเกิดการเผาไหม้เป็นควันลอยอยู่บริเวณนั้นๆและปล่อยสารต่างๆ  รวมทั้งสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการเผาไหม้ของกาว ขี้เลื่อย และน้ำหอมในธูป เช่น เบนซีน (Benzene) บิวทาไดอีน เป็นต้น  หากสูดดมหรือสัมผัสเป็นระยะเวลานาน เสี่ยงป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว  ดังนั้นจึงขอแนะนำประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสูดควันธูปเป็นระยะเวลานาน การเกิดผลกระทบต่อสุขภาพมีตั้งแต่ระคายเคืองตา และระคายเคืองระบบทางเดินหายใจเช่น ตาแห้ง แสบจมูก ไอ จาม น้ำตาไหล ขึ้นอยู่กับปริมาณ ระยะเวลาการรับสัมผัสและสุขภาพของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ประชาชนที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ กลุ่มเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง และผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือสูดดมควันธูป และควันจากการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง  หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูก

********************* 8 กุมภาพันธ์ 2556



   
   


View 8    08/02/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ