นายกรัฐมนตรีวางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างอาคารส่งเสริมสุขภาพขนาด 4 ชั้น โรงพยาบาลลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์   เพื่อเบาภาระโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ รองรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ขณะเดียวกันจะพัฒนาโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคหัวใจ อุบัติเหตุ โรคมะเร็ง ทารกแรกเกิด  และรองรับการดูแลผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังเปิดประชาคมอาเซียนในปลายปี 2558

         วันนี้ (20 มกราคม 2556) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วางศิลาฤกษ์อาคารส่งเสริมสุขภาพและห้องพักผู้ป่วย 4 ชั้นของโรงพยาบาลลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยมีนายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข ร่วมต้อนรับ

         นายแพทย์ประดิษฐกล่าวว่า ในการก่อสร้างอาคารส่งเสริมสุขภาพ และห้องพักผู้ป่วย ขนาด 4 ชั้น ซึ่งจะมีห้องแยกโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปสู่คนอื่น ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งหมด 44  ล้านบาทเศษ ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี นอกจากนี้ยังสร้างอาคารผู้ป่วยพิเศษ 20 ห้อง งบประมาณ 20 ล้านบาทเศษ และอาคารหอพักพยาบาล งบประมาณ 9 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบบริการประชาชนให้ได้รับการดูแลใกล้บ้าน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนพัฒนาระบบบริการออกเป็นเครือข่ายบริการ 12  เครือข่ายทั่วประเทศ จัดบริการรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ที่ใด จะสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย สะดวก โดยที่จ.อุตรดิตถ์ได้วางแผนพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษา 4 สาขาได้แก่ โรคหัวใจ อุบัติเหตุ มะเร็ง และทารกแรกเกิด  เป็นศูนย์ดูแลรักษาผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคที่ซับซ้อน ที่เกินศักยภาพการดูแลของแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน จำเป็นต้องได้รับการดูแลด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง ขณะเดียวกันจะเป็นการพัฒนาระบบบริการ เตรียมพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทางด้านแขวงไชยบุรี  และในอนาคตอาจมีการเปิดด่านชายแดนถาวรที่ด่านภูกู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์  ซึ่งขณะนี้เปิดเป็นจุดผ่อนปรน

         สำหรับโรงพยาบาลลับแล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง อยู่ห่างจากโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เพียง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ได้วางระบบให้ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง  เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วย ให้ได้มากกว่าร้อยละ 50 ขณะเดียวกันจะให้การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองของจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็นต้น และทำหน้าที่ในการสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนให้มีสุขภาพดี เพื่อลดจำนวนการเจ็บป่วย  โดยเฉพาะโรคที่ป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งขณะนี้ที่จังหวัดอุตรดิตถ์มีผู้ป่วยและผู้เสี่ยงจะป่วยจากโรคดังกล่าวประมาณ 50,000 คน

******************************************* 20 มกราคม 2556

                                       



   
   


View 9    20/01/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ