รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชน 3 กลุ่มระวังป่วยจาก 8 โรคที่มาพร้อมภัยหนาว ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี กลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่โรงพยาบาลแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบเด็กชาวเขาและผู้สูงอายุป่วยเป็นไข้หวัดเข้ารักษาเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ชี้การดื่มเหล้าไม่สามารถช่วยคลายหนาวได้  และมีอันตรายเสี่ยงเสียชีวิตได้ ขอให้ดื่มน้ำบ่อยๆ เพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง

             วันนี้ (14 ธันวาคม 2555) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ เพื่อร่วมในพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานและการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชน ในอำเภอ.แม่แจ่ม และตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลแม่แจ่ม  จ.เชียงใหม่  ว่า สภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำแนะนำประชาชนเพื่อป้องกันโรคที่มาพร้อมกับภัยหนาวที่พบได้บ่อย8 โรค ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส และอุจจาระร่วงในเด็ก รวมถึงโรคผิวหนังที่เกิดจากสภาพอากาศแห้ง โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีสภาพอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอื่น ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรคดังกล่าว เน้นย้ำพิเศษกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย 3 กลุ่มเนื่องจากภูมิต้านทานต่ำกว่ากลุ่มอื่น ได้แก่ 1.กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 2.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และ 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด  หอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับแข็ง โรคไต และโรคโลหิตจาง กลุ่มเหล่านี้หากป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป  จากการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลแม่แจ่ม พบว่าขณะนี้มีผู้ป่วยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขา ป่วยจากโรคทางเดินหายใจเข้ารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นเด็กมากกว่าผู้สูงอายุ 2 เท่าตัว

                นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันภัยหนาว ขอให้ประชาชนสวมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวเพื่อให้ความอบอุ่นร่างกาย โดยเฉพาะที่ส่วนหน้าอก คอ และศีรษะ จะต้องให้ความอบอุ่นเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ประเภทแป้งและไขมัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์ติดมัน จะช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย  เด็กทารกควรให้กินนมแม่ เพราะนอกจากเด็กจะได้รับภูมิต้านทานโรคจากนมแม่แล้ว การที่แม่กอดลูกขณะกินนมยังสร้างความอบอุ่นให้กับเด็กด้วย  ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากและผิวหนังไม่แห้งแตก หากมีโลชั่นก็สามารถชโลมผิวป้องกันผิวแตกได้

                 ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่ การดื่มสุรา ซึ่งมีประชาชนบางกลุ่มเชื่อว่าดื่มแล้วจะแก้หนาวได้นั้น ไม่เป็นความจริง การดื่มสุราจะทำให้รู้สึกเหมือนว่าร่างกายอบอุ่นในช่วงแรก ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดจากเส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร้อนวูบวาบ ผลที่เกิดตามมาก็คือร่างกายจะสูญเสียความร้อนและน้ำจากผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำได้ง่าย จึงมักพบการเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำในผู้ที่มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ นอกจากนี้ไม่ควรนอนในที่โล่งลมโกรกโดยไม่มีเครื่องป้องกันหนาว ไม่ควรผิงไฟในเต้นท์หรือในบ้าน เนื่องจากจะทำให้ร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ และเกิดการระคายเคืองตา แสบจมูก เจ็บคอได้ และไม่ควรนำเด็กเล็กเข้าไปใกล้บริเวณที่ก่อไฟ เพราะควันไฟจะระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจทำให้เป็นหวัดง่าย หากเกิดการเจ็บป่วยสามารถไปรับการตรวจรักษา ได้ที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศ นายแพทย์ชลน่านกล่าว

************************************* 14 ธันวาคม 2555

 



   
   


View 8    14/12/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ