“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 442 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำกระทรวงสาธารณสุขดูแลลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุนให้ได้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสิทธิประโยชน์ดีกว่าเดิมที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว
วันนี้ (2555) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่ลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุนจะหยุดงานในวันที่ 1-3 มกราคม 2556 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องความเท่าเทียมพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายวิชาชีพ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แก้ปัญหาเรื่องอัตรากำลังบุคลากรในกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการใน 2 ส่วน คือ การบรรจุเป็นข้าราชการ และรับเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มทั่วไปหรือสายสนับสนุน และกลุ่มสายวิชาชีพ โดยเมื่อประกาศใช้ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว บุคลากรที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวในสายสนับสนุนจะปรับเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และได้รับสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตามที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณา ซึ่งมีตัวแทนของลูกจ้างร่วมด้วย ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่กลุ่มลูกจ้างสายสนับสนุนจะต้องหยุดงานเพื่อมาชุมนุมเรียกร้องกัน เพราะเป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการให้อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องบุคลากรเป็นเรื่องระยะยาว เนื่องจากมติในการแก้ไขปัญหากำลังคนของกระทรวงสาธารณสุขที่ครม.อนุมัติ ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวโดยให้ตำแหน่งมาบรรจุข้าราชการเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อไปคือการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขทุกคน
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ขณะนี้ ร่างระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุขเสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ในขั้นตอนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม จากนั้นจะส่งต่อไปยังกระทรวงการคลัง คิดว่าคงไม่ช้า เนื่องจากที่ผ่านมานายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งดำเนินการมาโดยตลอด ขอให้ทุกท่านเห็นใจในความตั้งใจทำงาน เพื่อให้ครอบคลุม และทุกฝ่ายพอใจที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลาบ้าง โดยในการพิจารณากลุ่มลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพที่จะได้รับบรรจุเป็นข้าราชการ จะมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจน เช่น อายุการทำงาน โรงพยาบาลในพื้นที่ทุรกันดาร โรงพยาบาลที่มีภาระงานหนัก ขาดแคลนบุคลากร โรงพยาบาลชุมชนที่เกิดใหม่ หรืออยู่ในศูนย์ที่มีบริการกลุ่มเด็กและการปรึกษาพิเศษต่าง ๆ ส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์ที่รอการบรรจุเป็นข้าราชการ ก็จะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขไปก่อน ซึ่งสวัสดิการที่จัดให้นั้นเชื่อว่าทุกคนจะพึงพอใจ เพราะการบรรจุนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 ปี ซึ่งหากถึงเวลาที่จะได้บรรจุอาจมีบางคนไม่อยากบรรจุก็ได้ เพราะเงินเดือนของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขนั้นสูงกว่าข้าราชการ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุนที่มีกว่า 1 แสนคนจะรับสมัครให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งโดยทั่วไปคาดว่าน่าจะรับได้หมดทุกคน ทั้งนี้ โรงพยาบาลอาจจะรับเพิ่มหรือลดจำนวนลง ขึ้นอยู่กับภาระงานของแต่ละแห่งด้วย โดยเงินเดือนค่าจ้างจะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
******************************** 12 ธันวาคม 2555