“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 451 View
- อ่านต่อ
วันนี้ (12 ธันวาคม 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งที่ 2 ประจำปี 2555 โดยมีนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนจากหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายส่งเสริมประชาชนลดละการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และป้องกันเยาวชนไทยกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งมีผลเสียทั้งอนาคตการเรียน สุขภาพ โดยได้ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งผู้แทนจากองค์กรเอกชน 3 องค์กร ได้แก่ นายสงกรานต์ ภาคโชคดี องค์กรด้านการสนับสนุนและรณรงค์ให้มีการลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายพิริยะ ทองสอน องค์กรด้านการคุ้มครองเด็กและเยาวชนหรือสตรี และนายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ องค์กรด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าเป็นคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิอีก 3 คน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ 1.นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ จิตวิทยาหรือการสาธารณสุข 2.นางสาวศรีรัช ลาภใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสังคมสงเคราะห์ สังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือนิเทศศาสตร์ และ 3.นายทักษพล ธรรมรังสี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา การศาสนาหรือวัฒนธรรม
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ผลการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการออกกฎหมายอีก 3 ฉบับ คือประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 ได้แก่ 1.กำหนดพื้นที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางสาธารณะตามกฎหมายจราจรทางบก ได้แก่ ช่องทางจราจรบนถนน ไหล่ทาง ฟุตบาท เพราะจะทำให้เกิดอันตรายตามมาทั้งอุบัติเหตุจราจร และการทำร้ายร่างกาย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กำหนดคือ เวลา 11.00 น.ถึง 14.00 น.และตั้งแต่ 17.00 น.ถึง 24.00 น. ยกเว้นการขายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติและสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ ออกแทนประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 พ.ศ. 2515 ที่กำลังจะยกเลิกการใช้ และตามกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะเพิ่มโทษผู้กระทำผิดทั้งที่มีและไม่มีใบอนุญาตหนักขึ้น จากเดิมปรับเพียง 500 บาทเพิ่มเป็นโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฉบับที่ 3 ห้ามขายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสวนสาธารณะที่จัดไว้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ในความดูแลของราชการ ขยายผลถึงรัฐวิสาหกิจและองค์กรอื่นในกำกับภาครัฐด้วย ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ จะนำเสนอร่างกฎหมาย 3 ฉบับต่อคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณาต่อไปโดยเร็วที่สุด และหากได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติแล้ว ก็สามารถนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ได้ทันที ซึ่งจะเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลที่จะควบคุมปัญหาและผลเสียต่าง ๆ ที่ตามมาจากการบริโภคแอลกอฮอล์ ทั้งการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การทำร้ายร่างกาย ถือเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทยทั้งประเทศ นายแพทย์ประดิษฐกล่าว
ทางด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับการรับรู้ข้อกฎหมายและพฤติกรรมการจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่กฎหมายกำหนด ในหัวข้อสถานที่ที่เห็นควรกำหนดเป็นพื้นที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมจากพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 11-60 ปี จำนวน 5,000 คนทั่วประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน -พฤษภาคม พ.ศ.2555 ผลพบว่า กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าป้ายรถเมล์ ฟุตบาท ทางเท้า บนถนน ควรกำหนดเป็นพื้นที่ห้ามขายร้อยละ 28 เห็นควรห้ามไม่ให้ขายเหล้าในรัศมี 500 เมตรรอบสถานศึกษา ร้อยละ 21 และเห็นว่าไม่ควรขายในสถานีขนส่งร้อยละ 15 ห้ามขายในสถานที่เล่นกีฬาร้อยละ 12 ห้ามขายในสนามบินร้อยละ 11 และห้ามขายในสวนสาธารณะเอกชนร้อยละ 10
“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้นอกจากการมอบของขวัญด้วยกฎเหล็ก ทั้ง 3 อนุบัญญัติ จากฯพณฯนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ตนยังได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะที่ท่านเป็นประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด และสั่งการไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ให้ประสานพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจเตือนประชาสัมพันธ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในระหว่างวันที่ 17-26 ธันวาคม 2555 และในช่วง 7 วันอันตรายคือ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2555 ถึง 2 มกราคม 2556 ถ้าพบการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าการโฆษณาส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี การขายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือเวลาต้องห้าม การขายด้วยวิธีการหรือลักษณะต้องห้าม เช่น การเร่ขาย การขายแบบลด แลก แจก แถม การขายพ่วงกับสินค้าอื่น การขายโดยวิธีชิงโชคชิงรางวัล เป็นต้น ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดจนถึงที่สุด อันเป็นการกำหนดนโยบายการดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อลดการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้” นายแพทย์ณรงค์กล่าวเสริม
*************************************** 12 ธันวาคม 2555