กระทรวงสาธารณสุข ระดมแพทย์ พยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมรถพยาบาลในจังหวัดนราธิวาส 6 ทีม ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดรางรถไฟและยิงถล่มซ้ำที่บ้านสะโลบูกิ๊ดยือแล ตำบลรือเสาะเมื้อเช้าวันนี้ เบื้องต้น ณ เวลา 10.30 น.เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย บาดเจ็บ 16 ราย อาการสาหัสส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 8 ราย ในจำนวนนี้อาการหนักมาก  เสียชีวิตเพิ่มอีก  1 รายที่ห้องฉุกเฉิน     

          จากกรณีเกิดเหตุระเบิดรางรถไฟและยิงถล่มซ้ำขบวนรถไฟ 453 จากยะลามุ่งหน้าสุไหงโก-ลก เมื่อเช้าวันนี้ (18พฤศจิกายน 2555) เวลา 07.18 น. บ้านสะโลบูกิ๊ดยือแล ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ   จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายนั้น  
 
          วันนี้ (18 พฤศจิกายน2555) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข                         ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งระดมทีมแพทย์ พยาบาลฉุกเฉิน พร้อมรถกู้ชีพ จากโรงพยาบาล                     ในจังหวัดนราธิวาส จำนวน 6 ทีม เข้าไปให้การช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุอย่างเต็มที่   ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ 16 ราย เสียชิวิตในที่เกิดเหตุ  1 ราย เป็นชายชื่อ นายพนากร ขุนแก้ว อายุ 29 ปี ในกลุ่มผู้บาดเจ็บ มีอาการสาหัส  8  ราย นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์  อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อทำการผ่าตัดเป็นการด่วน                    ซึ่งด้านการแพทย์ได้เตรียมความพร้อมทุกด้านตลอด 24 ชั่วโมง   และได้กำชับให้หน่วยแพทย์ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บทุกรายอย่างดีที่สุดรวมทั้งดูแลทางจิตใจด้วย   
 
          ทางด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง16 ราย ขณะนี้                ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 8 ราย เป็นชายทั้งหมด ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บแขนขาหัก                       มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด อาการหนัก 1 ราย ชื่อนายสุขสวัสดิ์ เรืองนาม อายุ 48 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์                  เสียเลือดมาก แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจ และช่วยฟื้นฟูคืนชีวิตที่ห้องฉุกเฉินอย่างเต็มความสามารถ ต่อมาเสียชีวิตเมื่อเวลา 10.55 น. อีก 4 ราย ส่งเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน ที่เหลืออีก 3 ราย บาดเจ็บไม่รุนแรง รับไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ 8 รายส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ ส่วนใหญ่กลับบ้านได้ และอยู่ระหว่างสังเกตอาการที่โรงพยาบาลฯเพียง 1 ราย    
 
                                 *****************************       18 พฤศจิกายน 2555
 


   
   


View 16    19/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ