ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน  ระวัง 3 โรคที่อาจติดมากับเสื้อผ้ามือสอง ได้แก่ โรคกลากเกลื้อนจากเชื้อรา  โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค ได้แก่ตัวไร  ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน แนะขณะเลือกซื้อ ควรใช้ผ้าปิดจมูก ป้องกันการสูดฝุ่นละออง  และก่อนนำมาใช้ ขอให้ซักทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด นาน 15 นาที-1 ชั่วโมง เพื่อฆ่าเชื้อโรคหรือแมลงก่อโรคที่ติดมากับเสื้อผ้า

          นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้หลายจังหวัดของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ       ที่อากาศเย็นลงเร็วกว่าทางภาคอื่น  จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ  เรื่องที่ห่วงใยในฤดูหนาวนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มักซื้อหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวมือสอง ซึ่งมีให้เลือกจำนวนมากและราคาถูก ทำให้เป็นที่นิยมซื้อกันมาก ข้อมูลจากกรมศุลกากรในปี  2555  มีสถิติการนำเข้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วหรือของอื่นที่ใช้แล้วระหว่างเดือนมกราคม – กันยายน 2555 จำนวน เกือบ 20 ล้านกิโลกรัม มูลค่านับพันล้านบาท  

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า สิ่งที่อาจติดมากับเสื้อกันหนาวมือสองอาจทำให้ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ หากไม่ทำความสะอาดเสียก่อน ซึ่งที่สำคัญมี 3 โรค  ได้แก่ 1.โรคกลากเกลื้อน ซึ่งเกิดจากเชื้อรา ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงกลายเป็นผื่นแพ้ และมีอาการคัน  2.โรคภูมิแพ้ ซึ่งเกิดได้หลายกรณี ทั้งจากฝุ่นใยผ้า และฝุ่นที่ติดตามกระสอบรรจุระหว่างการขนส่ง หรือเกิดจากการแพ้น้ำยารีดผ้าเรียบที่ใช้รีดก่อนจำหน่าย น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง อาจระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น 3.โรคติดต่อและโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค อาจปะปนมากับเสื้อกันหนาวมือสอง ได้แก่ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน ซึ่งมักชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก อาจทำให้เกิดอาการผื่นคัน ระคายเคืองและเป็นแผลได้

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพิ่มกินผักและผลไม้หลากสี  เช่น ผักคะน้า ตำลึง ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะละกอสุก มะม่วงสุก ส้ม ฝรั่ง ลิ้นจี่ เป็นต้น เนื่องจากผักและผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินซีและเอ  ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค ช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น และบำรุงผิวพรรณ  ให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น  ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที และกินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ จะป้องกันโรคติดเชื้อจากอาหารและน้ำ และโรคทางเดินหายใจได้

          ทางด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการเลือกซื้อและใช้เสื้อกันหนาวมือสอง กรณีของผู้ค้า ไม่ควรวางเสื้อผ้ากองกับพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นละอองและแมลงชนิดต่างๆเข้าไปอาศัยในเสื้อผ้าได้  ส่วนประชาชนขณะที่เลือกซื้อ ควรสวมผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มากับเสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพดี ตรวจสอบรอยด่างดำ รอยคราบสกปรก รวมไปถึงกลิ่น อับชื้น ควรหลีกเลี่ยงผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ประเภทขนฟู เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค  

ทั้งนี้ ก่อนใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ขอให้นำมาซักทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า และนำไปตากแดดจัด จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ หรือให้ซักแล้วนำมาต้มในน้ำเดือดหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียสนานประมาณ 15 นาที – 1 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่มีอาการคันจากเชื้อราในร่มผ้าหลังใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ไม่ควรแคะหรือแกะเกา หรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี                     

                                               ***************************    4 พฤศจิกายน 2555  



   
   


View 12    04/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ