รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งที่กระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ  มอบนโยบายการทำงาน มีเป้าหมาย ตัวชี้วัดชัดเจน มุ่งหวังใน 10 ปีนี้คนไทยทุกคน       มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน สร้างแรงจูงใจบุคลากร ทำงานมีความสุข รายได้ดี ขยายบริการบูรณาการ 3 กองทุนครอบคลุมโรคมะเร็ง

 

          บ่ายวันนี้ (2 พฤศจิกายน 2555) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางเข้ารับตำแหน่งที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี อย่างเป็นทางการ พร้อมรับส่งมอบงานในหน้าที่ต่อจากนายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุรวิทย์  คนสมบูรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพบปะพร้อมมอบโยบายการดำเนินงานแก่คณะผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวต้อนรับและมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี

            นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการเข้ามาทำงานครั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลให้คนไทยมีสุขภาพดี โดยกำหนดวิสัยทัศน์ว่าภายใน 10 ปีคนไทยทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรงเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน โดยในการทำงานจะต้องมีเป้าหมาย ตัวชี้วัด การวัดผล และกรอบระยะเวลาในทุกงานเพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์และพันธกิจ โดยจะประเมินผลทุก 6 เดือน เพื่อปรับกระบวนการทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย และให้ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะให้มีองค์กรหรือหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ชัดเจน เช่น ด้านกำหนดกฎเกณฑ์การบริหารทางสุขภาพระดับชาติ   ด้านบริการการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการซื้อบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ด้านข้อมูลทางด้านสุขภาพของประเทศ มีหน่วยงานของกระทรวงสธารณสุขที่รับผิดชอบด้านนโยบายต่างประเทศโดยตรง และมีระบบฐานข้อมูลและระบบสื่อสารด้านสุขภาพทุกระดับ เชื่อมโยงกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการบริการประชาชน นอกจากนี้จะพัฒนาระบบการเงินการคลังของงานด้านสุขภาพทุกระดับ เพื่อให้เกิดความมั่นคงของระบบการดูแลสุขภาพให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ใช้กำลังคนอย่างเหมาะสมและถูกต้อง พัฒนารูปแบบการจ้างงานที่นอกเหนือจากข้าราชการ เช่น การเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจูงใจสร้างความมั่นใจให้กับผู้ทำงาน ให้คนทำงานมีรายได้ดี และทำงานอย่างมีความสุข โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ลดการใช้คนอย่างไม่จำเป็น เช่น งานเวชระเบียน บริการประชาชนเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวนาน เพื่อสร้างความพึงพอใจ แก่ประชาชน  เน้นการให้ข้อมูลสุขภาพหรือภัยสุขภาพที่จำเป็นแก่ประชาชน และสนองต่อสนองนโยบายรัฐบาล              ในโครงการต่างๆที่เป็นรูปธรรมและทันเวลา   

              นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจเร่งด่วน 9 เรื่อง ได้แก่ 1.พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินรองรับอุบัติเหตุจราจรโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง 2.การดูแลกลุ่มต่างๆ ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผ่านทางศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์พึ่งได้ และโครงการเพื่อเด็กและสตรี  (Every Woman Every Child) 3.การแก้ปัญหายาเสพติด เน้นการป้องกันให้เป็นภูมิคุ้มกันยาเสพติด โดยเพิ่มการเผยแพร่ผลวิจัยพิษภัยของยาเสพติด และด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาที่มีประสิทธิภาพ 4.ปรับปรุงคุณภาพการบริการประชาชน เพื่อลดคิวและระยะเวลารอแพทย์ให้สั้นลง 5.จัดหมอใกล้บ้านใกล้ใจทุกครัวเรือน ติดต่อได้ตลอดเวลา 6.การดูแลส่งเสริมสุขภาพตามกลุ่มวัยและกลุ่มโรค ตามนโยบายรัฐบาล เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง 7.ขยายการบูรณาการการจัดบริการผู้ป่วยที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศของ 3 กองทุนสุขภาพภาครัฐ เช่น มะเร็ง ต่อจากการป่วยฉุกเฉิน โรคไตวายเรื้อรัง และเอดส์ 8.โครงการในพระราชดำริ เพื่อเป็นผลงานถวายทุกพระองค์ และ9.การทบทวนงบลงทุนเงินกู้ (DPL) ให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ตรงต่อความต้องการ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2555 และจัดเตรียมงบประมาณ 2557 ให่เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2556 ซึ่งจะทำเป็นงบประมาณแผนใหม่รวมในงบรายหัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร

           ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะขอทำงานช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผลักดันให้นโยบายต่าง ๆ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายรัฐบาลที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง ให้ประสบผลสำเร็จ บรรลุตามเป้าหมายของรัฐบาล ทั้งในเชิงคุณภาพ             และเชิงปริมาณ และจะเพิ่มมิติของสุขภาพผสมผสานกับมิติทางเศรษฐกิจ และมิติทางสังคม เช่น การมีวิสาหกิจชุมชนสุขภาพดี เพื่อสนับสนุนการทำงานของ อสม. การทำงานจะนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ คือโปร่งใส ตรวจสอบได้ ในฐานะที่ได้รับมอบอำนาจมาจากประชาชน  พร้อมทุ่มเท การทำงานอย่างเต็มที่และขอความร่วมมือข้าราชการทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อประชาชน

  ******************************  2 พฤศจิกายน 2555

 



   
   


View 14    02/11/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ