รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขห่วงประชาชนป่วย ช่วงอากาศเปลี่ยนปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะ 2 โรคสำคัญคือ ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม ในปี 2554 พบ 2 โรคป่วยกว่า 1 แสนราย เสียชีวิต กว่า 1,000 ราย  สั่งสาธารณสุขทุกจังหวัดเร่งให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ และเฝ้าระวังในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่เสี่ยงเจ็บป่วยง่ายและอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

           นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้ สภาพอากาศเปลี่ยน เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว หลายพื้นที่มีอุณหภูมิลดลง อากาศเริ่มหนาวเย็น ทำให้ประชาชนเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ดังนั้นนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และให้กระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่ดูแลสุขภาพของประชาชนให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งให้ความรู้ประชาชนทุกกลุ่มวัยในการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ โดยได้ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เฝ้าระวังโรคที่มักพบบ่อย 2 โรค ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่  และ ปอดบวม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจโดยตรง   

           นายวิทยากล่าวต่อว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ได้แก่ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต โรคโลหิตจาง เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จะเจ็บป่วยง่าย และเมื่อป่วยแล้ว อาการมักรุนแรงกว่าประชาชนทั่วๆไป ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ประชาชนหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  รักษาร่างกายให้อบอุ่น ถ้าไม่สบายมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ ให้นอนพักอยู่บ้าน หาก 2 วันอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงมากขึ้น สังเกตได้โดยจะมีความปกติ การหายใจลำบากขึ้น เช่น หอบ หายใจเร็ว หายใจลำบาก ขอให้รีบไปรับการรักษาในสถานบริการสาธารณสุขทันที

          ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2554 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จำนวน 62,112 ราย เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งมีอัตราป่วยลดลงจากเดิม และพบผู้ป่วยโรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ 179,976 ราย เสียชีวิต 1,201 ราย ซึ่งโรคดังกล่าวพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว รวมทั้งเกิดขึ้นมากในกลุ่มประชาชนที่อาศัยในพื้นที่อากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือมีอัตราป่วยสูงสุดทั้ง 2 โรค

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า การดูแลสุขภาพช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงมีข้อแนะนำ 8 วิธีดังนี้ 1.รักษา สุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ 2.ไม่เข้าไปในที่แออัดโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 3.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่างๆ เนื่องจากจะทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม  

            ภูมิต้านทานต่ำลง ติดเชื้อได้ง่าย 4.เลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดและไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน 5.ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ 6.สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นเพียงพอ 7.หากเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ไม่คลุกคลีกับผู้อื่น  8.ปรึกษาแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

          *****************************************************   14 ตุลาคม 2555

 

 

 




   
   


View 11    14/10/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ