รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ประสบภัยดูแลบุตรหลานอย่าลงเล่นน้ำที่ท่วมขัง อาจเป็นโรคตาแดงได้ ยิ่งน้ำท่วมนานยิ่งเสี่ยงสูง เนื่องจากน้ำสกปรก มีเชื้อโรคปนเปื้อนในน้ำสูง หากป่วยแล้วให้ไปพบแพทย์ อย่าใช้ยาหยอดตาร่วมกัน และควรใช้กระดาษนุ่มๆ ซับน้ำตาแล้วทิ้ง แทนการใช้ผ้าเช็ดหน้า

          วันนี้ (2 ตุลาคม 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา  บุรณศิริ   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ ยังมีน้ำท่วมขังใน 13 จังหวัด กระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงประชาชนโดยเฉพาะเด็กๆ อาจป่วยเป็นโรคตาแดงได้ ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมหลายจังหวัดพบว่าเด็กๆมักจะออกมาเล่นน้ำที่ท่วมขังกันจำนวนมาก ยิ่งน้ำท่วมนานหลายวันความเสี่ยงโรคตาแดงก็จะสูงขึ้น เนื่องจากมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนสูงมาก และจากข้อมูลของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เริ่มพบผู้ป่วยประปราย แต่ยังใม่มีการแพร่ระบาด ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ประสบภัย เร่งให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันโรค เพราะแม้ว่าจะไม่เป็นโรคที่อันตรายร้ายแรง แต่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมาก   

 

                ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคตาแดงที่พบในช่วงน้ำท่วมขังนี้ มีสาเหตุมาจากติดเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับน้ำจากการลงเล่นน้ำ  น้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ใช้น้ำที่ไม่สะอาดล้างหน้า หรือใช้มือ แขน เสื้อผ้าที่สกปรกขยี้ตาหรือเช็ดตา โรคนี้อาการไม่รุนแรง  แต่ติดต่อกันได้ง่ายมาก จากการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่นผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่ม โดยหลังจากติดเชื้อภายใน 2-14 วัน จะมีอาการเคืองตา คันตา ตาแดง น้ำตาไหล มีขี้ตามาก มักเริ่มจากตาข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปยังตาอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน

          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นโรคตาแดงแล้ว ควรไปพบแพทย์ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อรับการรักษา และให้ปฏิบัติตัวดังนี้ 1.ให้ใช้กระดาษนุ่มๆ ซับน้ำตา หรือใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดขี้ตาและบริเวณเปลือกตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด 2.ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา เนื่องจากเชื้อจะสะสมที่ผ้าเช็ดหน้าและแพร่ไปติดคนอื่นได้ 3.งดใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าตาจะหายอักเสบ 4.ใส่แว่นกันแดดเพื่อลดการระคายเคืองแสง 5.ควรนอนแยกจากสมาชิกในครอบครัว และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา และเครื่องนอน เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาด ประการสำคัญ ไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกัน เนื่องจากเชื้ออาจติดอยู่ที่ปากขวดยาหยอดตาได้ ทั้งนี้ หากมีอาการปวดตารุนแรง ตาพร่ามัว หรืออาการตาแดงไม่ทุเลาภายใน 7 วัน ขอให้ไปรับการรักษากับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน  

       นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า คนที่เคยเป็นโรคตาแดงแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีกหากติดเชื้อ ในการป้องกันโรคขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1.ถ้ามีน้ำสกปรกเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที 2. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกจากมือ และห้ามใช้มือขยี้ตา 3.รักษาความสะอาดเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด   

 

 ***********************************  2 ตุลาคม 2555

 

 

 

 

 

 



   
   


View 11    02/10/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ