ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันเชื้อโรคมือเท้าปากในไทยเชื้อไม่รุนแรง พบสายพันธุ์รุนแรงเพียง 1 ใน 10 โดยในเรื่องมาตรฐานระบบการดูแลรักษา การเฝ้าระวัง การควบคุมป้องกันโรค ของกระทรวงสาธารณสุข อยู่ในระดับชั้นแนวหน้า รู้สถานการณ์เร็ว และวางแผนรับมือล่วงหน้า
เช้าวันนี้ (11 กรกฎาคม 2555) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของโรคมือเท้าปากว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีการเฝ้าระวังเชื้อโรคมือเท้าปาก มาเป็นเวลากว่า 10 ปี พบว่าสายพันธ์ส่วนใหญ่ เป็นชนิดที่ไม่รุนแรง เช่น บี 5 ส่วนสายพันธุ์ที่รุนแรงพบในสัดส่วนที่น้อย ประมาณ 1 ใน 10 ของสายพันธุ์เท่านั้น ทำให้สถานการณ์โรคมือเท้าปากของประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตน้อยมาก และที่สำคัญคือกระทรวงสาธารณสุขมีระบบการดูแล การเฝ้าระวัง การควบคุมโรคและการรักษาผู้ป่วย ถือว่าเป็นชั้นแนวหน้า โดยเฉพาะระบบการเฝ้าระวังโรคที่รวดเร็วมาก ทำให้สามารถรู้สถานการณ์ของโรคได้อย่างรวดเร็ว รู้ว่าโรคอะไรบ้างที่จะเข้ามา ล่าสุดคือโรคมือเท้าปาก ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดก่อนหน้านี้มาประมาณ 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่ได้รับรายงานความผิดปกติ
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า วันนี้จะทำหนังสือย้ำเตือนไปยังหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศอีกครั้ง กำชับแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งแนวทางการรักษาผู้ป่วย เช่น ถ้าผู้ป่วยมีไข้ 2-3 วัน มีตุ่มที่แขนขา และมีแผลในปาก ถือว่าเป็นโรคมือเท้าปากแน่นอน เพราะขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน มี 2 โรคที่คล้ายกัน คือ โรคไข้เลือดออกกับโรคมือเท้าปาก ซึ่งใน 1-2 วันแรกก่อนที่จะมีตุ่ม อาการจะเหมือนกัน ดังนั้นถ้าผู้ป่วยมีไข้สูงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขอให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อจะได้แยกว่าเป็นไข้เลือดออกหรือมือเท้าปาก หรือเป็นไข้อย่างอื่น ซึ่งหากแพทย์พบว่าเป็นโรคมือเท้าปาก แพทย์จะได้ติดตามการรักษาต่อเนื่อง แต่หากผู้ป่วยมีอาการซึมลงก็จะต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล เพราะแสดงว่าเชื้อจะเริ่มเข้าสู่สมอง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะในเมืองไทยยังพบไม่มาก และถ้าผู้ป่วยมาพบแพทย์เร็ว ยืนยันว่าแพทย์รักษาได้แน่นอน ส่วนกรณีผู้ป่วยที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องรอผลการตรวจเชื้อคาดว่าจะได้ผล 7วัน ขอให้ประชาชนยึดหลักล้างมือบ่อยๆ รับประทานอาหารร้อนๆ ใช้ช้อนกลาง ก็จะสามารถป้องกันโรคนี้ได้
******************************* 11 กรกฎาคม 2555
View 9
11/07/2555
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ
