รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้หน่วยแพทย์กู้ชีพกว่า 10,000 ทีมทุกจังหวัด ยึดหลักปฏิบัติ 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุหลังวางสายแจ้งภายใน 10 นาที  เพื่อลดการเสียชีวิต ป้องกันความพิการให้ได้มากที่สุด พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ขอให้โทรแจ้งสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ฟรีทุกระบบตลอด 24 ชั่วโมง  เพื่อให้ผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี และนำส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย

นายวิทยา บุรณศริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานพิธีมอบนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและเปิดการรณรงค์ 7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันนี้ (11 เมษายน 2555) ว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดที่มีกว่า 10,000 แห่งกระจายทั่วประเทศ ครอบคลุมถึงระดับตำบล ดำเนินการ 3 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บที่จุดเกิดเหตุ ได้มอบนโยบายให้หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นหน่วยหน้าในการออกไปให้การดูแลช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีจำนวน 11,138 ทีม บุคลากร 122,945 คน รถพยาบาลฉุกเฉิน 14,189 คัน เรือ 1,128 ลำ เฮลิคคอปเตอร์ 101 ลำ ให้ปฏิบัติงาน 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย”  เพื่อลดการเสียชีวิตและความพิการจากอุบัติเหตุจราจรให้ได้มากที่สุด  โดย 3 เร็วได้แก่ แจ้งเหตุเร็ว รับผู้ป่วยเร็ว และส่งถึงมือแพทย์เร็ว และ 2 ดี ได้แก่ คุณภาพการให้บริการดีทั้งในภาวะปกติและภัยพิบัติ  ตั้งเป้าหมายให้หน่วยกู้ชีพเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 10 นาทีให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ต้องขอความร่วมมือประชาชนหากพบผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ขอให้โทรแจ้งสายด่วน 1669 ฟรีทุกระบบ ซึ่งมี 500 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธีจากบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ และนำส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยที่สุด   
2.การดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล ได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด จัดกำลังแพทย์ แพทย์เฉพาะทาง พยาบาล เจ้าหน้าที่ ประจำการที่ห้องฉุกเฉิน พร้อมเวชภัณฑ์ คลังเลือด ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู สำรองเตียงว่างรับผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์  ขณะนี้ได้รับรายงานว่าทุกแห่งมีความพร้อมเต็มที่ 
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่ 3 คือการป้องกันอุบัติเหตุ ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะจากสาเหตุ ดื่มสุราแล้วขับ   ได้สั่งการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานควบคุมป้องกันควบคุมโรค 12 เขต และสำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด  โดยเฉพาะสถานที่ห้ามขาย สถานที่ห้ามดื่ม เวลาห้ามขาย และอายุที่ห้ามขาย หากพบเห็นผู้ฝ่าฝืน จะลงโทษโดยไม่ละเว้น  ขณะเดียวกันได้เปิดสายด่วนรับแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว ทางหมายเลข 02-590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง 
****************************************** 11 เมษายน 2555


   
   


View 4       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ