วันนี้ (3 เมษายน 2555) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการระบุชื่อและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธิ์(เพิ่มเติม) โดยได้จัดให้สารซูโดอีเฟดรีน (pseudoephedrine)และยาทุกสูตรตำรับ ที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภท 2 ซึ่งประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือวันที่ 4 เมษายน 2555 และภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ ให้สถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และไม่ประสงค์จะมีไว้ในครอบครองยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมเพื่อการบำบัดรักษา และร้านขายยาทุกแห่ง ดำเนินการจัดส่งยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมคืนให้กับผู้ผลิตหรือนำเข้า  

และได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดปริมาณการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 พ.ศ.2555 กำหนดให้การมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุ ออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 หากคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้ว มีไว้ในครอบครองในปริมาณมากเกินกว่าจำนวนที่กำหนด ต้องระวางโทษตามมาตรา 106 ทวิ รวม 18 รายการ ประกอบด้วย วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 จำนวน 15 รายการดังนี้ 1.คาทิโนน(cathinone) 0.500 กรัม 2.ดีอีที(DET) 0.500 กรัม 3.ดีเอ็มเอชพี(DMHP) 0.500 กรัม 4.ดีเอ็มที(DMT) 0.500 กรัม 5.เมสคาลีน(mescaline)0.500 กรัม 6.4-เมทิลอะมิโนเรกซ์(4-meyhylaminorex) 0.500 กรัม 7.พาราเฮกซิล (parahexyl)0.500 กรัม 8.พีซีอี(PCE)0.100 กรัม9.พีเอชพี หรือ พีซีพีวาย(PHP หรือ PCPY) 0.100 กรัม 10.ไซโลซีน(psilocine)0.100 กรัม 11.ไซโลไซบีน (psilocybine)0.100 กรัม 12.ทีซีพี(TCP)0.100 กรัม 13.เตตราไฮโดรแคนนาบินอล(tetrahydrocannabinol) เว้นแต่เตตราไฮโดรแคนนาบินอล ซึ่งมีอยู่ในแคนนาบิส(cannabis)หรือยางกัญชา(cannabis rasin) ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 0.100 กรัม 14.อีทริพตามีน(etryptamine) 0.500 กรัม และ 15.เมทคาทิโนน(methcathinone)0.500 กรัม
 
ส่วนวัตถุ 2 ออกฤทธิ์ในประเภท ประกอบด้วย 1.อีเฟดรีน (ephedrine) 5.000 กรัม 2.ซูโดอีเฟดรีน (pseudoephedrine)5.000 กรัม และ 3.คีตามีน (ketamine) 0.500 กรัม ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือวันที่ 4 เมษายน 2555 เป็นต้นไป
 
นายวิทยา กล่าวอีกว่า เป้าหมายของการออกประกาศกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ก็เพื่อเพิ่มมาตรการในการควบคุมสารซูโดอีเฟดรีนให้เข้มงวดมากขึ้น และจำกัดปริมาณการครอบครองสารซูโดอีเฟดรีน ให้มีได้ไม่เกินกี่กรัม เพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติได้ถูกต้อง ขอย้ำว่าซูโดอีเฟดรีน และยาทุกสูตรที่ผสมซูโดอีเฟดรีนไม่ใช่ยาเสพติด เป็นเพียงแค่ส่วนผสมเท่านั้น แต่เมื่อมีคนนำไปทำเป็นยาเสพติดชนิดต่างๆ ก็ต้องมีมาตรการในการควบคุมที่ชัดเจนและเข้มข้นขึ้น    ซึ่งจะประชุมชี้แจงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย และ โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งคลินิกในวันที่ 4 เมษายน 2555      
**************** 3 เมษายน 2555


   
   


View 14       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ