สธ. แจง “ต่างด้าว” เข้ารักษามีค่าใช้จ่าย ยกเว้น 3 กลุ่ม “รอสัญชาติไทย-อยู่ในประกันสังคม-ซื้อประกันสุขภาพ” มีกองทุนดูแล
- สำนักสารนิเทศ
- 141 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ มะเร็ง ปีละกว่า 97,900 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 11 คน ร้อยละ 60 อายุยังไม่ถึง 60 ปี และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวใน 5 ปี เหตุจากกินผักผลไม้น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานเฉลี่ยคนละไม่ถึง 2 ขีดต่อวัน เปิดตัวหนังสือ “84 เมนูน้ำพริก” เมนูคู่ครัวไทย รณรงค์ให้คนไทยกินน้ำพริก ผักจิ้ม ป้องกันโรค ทำให้อายุยืนยาวขึ้น
วันนี้(25 มีนาคม 2555)ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการ มหกรรมเผยแพร่ความรู้ “สังคมไทย ไร้โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ด้วยพระบารมีปกเกล้า” ในโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 26 มีนาคม 2555 และมอบรางวัลให้ชุมชน หมู่บ้าน และสถานบริการสาธารณสุข ที่มีผลงานดีเด่นและดีเยี่ยมในการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในระดับภาค จำนวน 20 รางวัล ในวันนี้ นายวิทยา ได้แสดงฝีมือตำน้ำพริกปลาทู กินแกล้มกับผักสด ซึ่งเป็นเมนูรักสุขภาพที่อยู่คู่ครัวไทย กับดร.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ
นายวิทยา กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นการส่งเสริม การสร้างสุขภาพแก่ประชาชนไทย เพื่อลดการเจ็บป่วย การเสียชีวิตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่อยากเห็นคนไทยทุกคนมีสุขภาพดี ปัจจุบันประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ปีละกว่า 97,900 คน ร้อยละ 60 หรือจำนวน 58,000 คน เสียชีวิตขณะอายุยังไม่ถึง 60 ปี ชี้ให้เห็นว่าคนไทยขณะนี้อายุสั้นลง โดยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวภายใน 5 ปี และยังพบอีกว่าคนไทยกินยาสูงถึงปีละ 47,000 ล้านเม็ด เฉลี่ยวันละ 128 ล้านเม็ด สาเหตุหลักของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เกิดจากพฤติกรรมขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักตัวเกิน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารที่หวาน มัน เค็มมากขึ้น กินผักน้อย
นายวิทยากล่าวต่อว่า มาตรการสร้างเสริมสุขภาพดีแก่ประชาชน กระทรวงสาธารณสุขจะสานต่อโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนฯ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยตรวจคัดกรองปัจจัยเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อน ให้การดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะลดความรุนแรงโรคลง เน้นหนักการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ส่งเสริมกินผักผลไม้ ลดกินอาหารหวาน มัน เค็ม กระตุ้นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสูดควันบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งคนปกติ กลุ่มเสี่ยงที่จะป่วย และกลุ่มคนที่ป่วยแล้ว
โดยเฉพาะในเรื่องของการกินผักผลไม้ของคนไทย อยู่ในเกณฑ์น่าห่วงมาก ผลวิจัยกรมอนามัยล่าสุดในปี 2554 พบคนไทยกินผักน้อยมากเฉลี่ยคนละ 1.8 กรัม หรือพูดง่ายๆไม่ถึงวันละ 2 ขีด ทั้งๆที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีผักผลไม้ตลอดปี ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกกำหนดให้กินผักให้ได้วันละ 4 ขีด จึงจะมีผลในการป้องกันโรคได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะรื้อฟื้น กระตุ้นให้คนไทยหันมากินน้ำพริก ผักจิ้ม ซึ่งเป็นเมนูคู่ครัวไทยมาแต่อดีต และเป็นเมนูหลักของคนที่อายุยืนขณะนี้ โดยได้จัดทำหนังสือ “84 เมนูน้ำพริก...ผัก รักษ์สุขภาพ” จำนวน 10,000 เล่ม เผยแพร่ประชาชน ซึ่งจะมีรายการน้ำพริกมากถึง 84 เมนู ส่วนประกอบของน้ำพริกส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณเป็นยา เช่น พริกขี้หนู จะช่วยขับลม แก้ท้องอืด ส่วนผัก ผักลวกจิ้ม จะให้เส้นใยอาหาร ช่วยการขับถ่ายเป็นปกติ ท้องไม่ผูก และในผักยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ และมะเร็ง ซึ่งในหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงวิธีการกินน้ำพริกที่ได้ประโยชน์ ผักที่ใช้กินคู่กับน้ำพริก การเลือกซื้อผักและการล้างผักที่ถูกต้องด้วย
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมวิชาการที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงานรูปแบบการสร้างสุขภาพที่ประสบความสำเร็จ และบูรณาการความร่วมมือซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย พ.ศ.2554 - 2563 ให้ประสบผลสำเร็จ
กิจกรรมงานภายในงาน ประกอบด้วย เวทีวิชาการ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สังคมไทย ไร้โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ด้วยพระบารมีปกเกล้า” การอภิปรายรูปแบบการลดปัจจัยเสี่ยง การจัดการโรคและภาวะแทรกซ้อน มาตรการ 3 อ. 2 ส. นิทรรศการเผยแพร่ผลงานรูปแบบดีเด่น/ดีเยี่ยมระดับภาค และผลงานเด่นทั้ง 76 จังหวัด, เวทีชาวบ้าน เล่าประสบการณ์การขับเคลื่อนโดยชุมชน/ท้องถิ่น...ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตการทำอาหาร และการออกกำลังกายตามวิถีชีวิตไทย, บริการทางการแพทย์ คัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และตรวจภาวะแทรกซ้อนที่ตา เท้า และหลอดเลือด บริการนวดเท้า ให้ความรู้และคำปรึกษา, การออกร้านจำหน่ายสินค้าสุขภาพ สมุนไพร ในราคาย่อมเยา และการประกาศเจตนารมณ์ในการสนับสนุน และลงนามความร่วมมือสร้างสุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ภายในงานนี้ จะมีการแจกหนังสือ 84 เมนูน้ำพริก...ผัก รักษ์สุขภาพ ให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานจำนวน 5,000 เล่มด้วย
............................ 25 มีนาคม 2555