วันนี้ (9มีนาคม 2555ที่ จังหวัดราชบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เมฆธนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนารองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตรวจเยี่ยมการรณรงค์ตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ที่ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการรณรงค์พร้อมกันทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศค้นหาผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดโรค ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย  ลดการเสียชีวิตและลดความพิการ ตามนโยบายรัฐบาล  

 
นายวิทยา กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคเรื้อรังหรือโรคจากวิถีชีวิตมากขึ้น โดยพบว่าคนไทยอายุ 15ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคเบาหวานประมาณ 3ล้านคน และเป็นความดันโลหิตสูงกว่า 10 ล้านคนจากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2552 พบผู้ป่วยเบาหวานและความดันดันโลหิตสูง ได้รับการ รักษาและควบคุมอาการได้ประมาณ 1 ใน 4 เท่านั้น ยังมีผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 31 และความดันโลหิตสูงอีกร้อยละ 50 ที่ไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับการดูแลจะเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้สูง
 
สาเหตุการเกิดโรคเรื้อรังเกี่ยวข้องกับ 5 ปัจจัยหลัก คือ1การรับประทานอาหารรสหวาน มัน เค็มมากเกินไปกินผักและผลไม้น้อย 2.ขาดการออกกำลังกาย  3.ความเครียด  4.สูบบุหรี่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และ5. มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนแก้ไขป้องกันระยะยาว 10 ปี โดยจัดทำยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย พ.ศ.2554-2563เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทย ให้ลดความเสี่ยงการเกิดโรค ลดปัญหาโรคแทรกซ้อน ลดวามพิการ ลดการเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายในการรักษา  และพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือรพ.สต. ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด สามารถให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังและป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเพิ่ม   โดยในปี 2555 นี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม. 1 ล้านคน ออกตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวาน ในประชาชนที่มีอายุ 15ปีขึ้นไปที่มีทั้งหมด 53.9ล้านคน  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1มีนาคม 2555จนถึงขณะนี้ตรวจทั้ง 2โรคไปแล้ว 1,589,936คน แบ่งเป็นโรคเบาหวาน 626,656 คน และโรคความดันโลหิตสูง 963,280 คน
 
ผลการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ในกลุ่มอายุ 15-34ปี ตรวจ 87,831คน พบผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติเสี่ยงจะป่วยร้อยละ 10 หรือจำนวน 8,069คน   พบป่วยแล้ว 1,919คน     ในกลุ่มอายุ 35ปีขึ้นไป ตรวจ 538,825คน พบผู้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ เสี่ยงจะป่วยร้อยละ 20 จำนวน 105,123 คน และพบป่วยแล้ว 36,602 คน   ส่วนโรคความดันโลหิตสูง ในกลุ่มอายุ 15-34 ปี ตรวจ 185,324 คน พบผู้มีความดันโลหิตสูงเกินปกติ เสี่ยงจะป่วยร้อยละ 23 จำนวน 41,958 คน เป็นผู้ป่วยแล้ว 3,497 คน ในกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 777,956 คน พบผู้มีความดันโลหิตสูงเกินปกติ เสี่ยงจะป่วยร้อยละ 26 จำนวน 205,406คน เป็นผู้ป่วย/ผู้ป่วยรายใหม่ 57,107 คน ซึ่งทั้งหมดได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้คำแนะนำติดตามดูแลรักษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงและดูแลรักษากลุ่มที่ป่วยอย่างต่อเนื่อง       
           
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การรณรงค์ตรวจคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตสูงครั้งนี้ จะช่วยให้ประชาชนทุกคนทราบว่ารู้สถานะสุขภาพตัวเองดีขึ้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันไม่ให้ป่วยได้ทัน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.จะนำผลการตรวจคัดกรอง มาวางแผนการดูแล โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ปกติเน้นให้คำแนะนำสร้างเสริมสุขภาพตามหลัก 3 อ. 2 ส. ได้แก่ ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่และตรวจสุขภาพซ้ำปีละครั้ง2.กลุ่มเสี่ยง ให้คำปรึกษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพป้องกันไม่ให้ป่วยติดตามตรวจเลือดและวัดความดันโลหิตทุก 6 เดือน3.กลุ่มผู้ป่วยจัดระบบดูแลรักษา ควบคู่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ตรวจหาโรคแทรกซ้อนโดยบริการเชื่อมโยงระหว่าง รพ.สต. โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลทั่วไป4.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนจะส่งพบแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลศูนย์ เพื่อดูแลรักษา   ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมป้องกันทั้ง 2 โรคนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น
 
สำหรับจังหวัดราชบุรี มี อสม. 11,600 คน ได้นำขบวนการลูกเสือมาประยุกต์ในการพัฒนาศักยภาพการทำงาน อสม. โดยแบ่ง อสม.เป็นทีม ประมาณ 5 ทีม ดูแลประชาชน 50 หลังคาเรือน ออกปฎิบัติการพร้อมๆกัน เป็นทีมสุขภาพให้บริการประชาชนในหมู่บ้าน ทั้งการซักประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว ตรวจวัดความดันโลหิต เจาะเลือดตรวจดูน้ำตาล รวมทั้งดูแลลูกน้ำยุงลาย ความสะอาดสิ่งแวดล้อม ซึ่งการออกปฎิบัติการพร้อมกันเป็นทีมจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนผู้รับบริการมากขึ้น และเป็นการสร้างความสามัคคีในการทำงาน โดยอสม.ทุกคน จะมีกระเป๋าครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ในกระเป๋าจะมีเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นแก่ประชาชนอาทิ เครื่องตรวจวัดความดันโลหิตและ เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดแบบดิจิตอลปรอทตรวจวัดไข้เครื่องชั่งน้ำหนัก    ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาล สายวัดรอบเอวใช้เพื่อประเมินความอ้วน  พร้อมคู่มือการปฎิบัติงานของอสม.

  ************************************************** 9 มีนาคม 2555



   
   


View 13       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ