เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าพบผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือการจัดทำข้อตกลงร่วมกันในด้านการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งผู้สูงอายุที่สุขภาพปกติ ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงและผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งผู้สูงอายุของฟินแลนด์ขณะนี้แม้ค่าเฉลี่ยมีอายุยืนยาวแต่ประสบปัญหาสุขภาพไม่แตกต่างจากไทย
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2555) นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับนางซิร์ปา แมนแป (Ms.Sirpa Maenpaa) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า การหารือในครั้งนี้เป็นการพูดคุยถึงกรอบความร่วมมือ 2 เรื่อง ได้แก่ ความร่วมมือด้านชีววิทยาศาสตร์การดูแลผู้สูงอายุ และการออกกำลังกายโดยใช้อุปกรณ์การแพทย์ โดยด้านการดูแลผู้สูงอายุนั้น จะดูแลครอบคลุมทั้งผู้สูงอายุที่สุขภาพปกติ ผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และผู้สูงอายุที่ป่วยมีโรคประจำตัวแล้ว เพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งที่ประเทศฟินแลนด์นั้น แม้ว่าผู้สูงอายุจะมีอายุโดยเฉลี่ยยืนยาวแต่จะมีโรคต่างๆมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นทางประเทศฟินแลนด์จึงอยากจะนำเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อพัฒนาการดูแลผู้สูงอายุมาใช้กับประเทศไทยด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการจัดระบบริการดูแลผู้สูงอายุไทย ซึ่งขณะนี้มีมากถึง 7 ล้านกว่าคน และแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่มีปัญหาเป็นโรคเรื้อรัง เช่นข้อเข่าเสื่อม โรคความดันโลหิตสูง
นายแพทย์วิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับความร่วมมือในการดูแลผู้สูงอายุนี้ ประเทศฟินแลนด์เคยนำไปใช้ที่เมืองเดนไซ ประเทศญี่ปุ่น โดยจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ไม่เน้นบริการทางการแพทย์ ตามแนวทางของรัฐบาลท้องถิ่นญี่ปุ่น ซึ่งตอนแรกลงทุนโดยรัฐบาลท้องถิ่น และต่อมาได้พัฒนาเพิ่มรูปแบบการลงทุนแบบครึ่งต่อครึ่งระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นกับรัฐบาลฟินแลนด์
ทั้งนี้กรณีของประเทศไทย หลังจากที่หารือกับกรมการแพทย์ และกรมอนามัยแล้ว ได้วางแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศฟินแลนด์กับประเทศไทย โดยจะมุ่งเน้นในการดูแลผู้สูงอายุทั้ง 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้สูงอายุที่สุขภาพปกติ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิด และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ยังไม่สรุปผลว่าจะดำเนินการไปในรูปแบบใด ได้ขอให้ประเทศฟินแลนด์ เสนอรายละเอียดข้อพิจารณา เงื่อนไข ประเด็นต่างๆให้กระทรวงสาธารณสุขไทยพิจารณาทางเลือก เพื่อให้เกิดความรอบคอบ จะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจตามความเหมาะสมต่อไป
นายแพทย์วิชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไทยมีความร่วมมือกับประเทศฟินแลนด์ในช่วงปี 2552-2553 โดยมีการแลกเปลี่ยนวิชาการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ด้านหัวใจร่วมกับสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ การประชุมวิชาการในเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ด้านโรคหัวใจ และเปิดศูนย์แสดงการดำเนินงานของฟินแลนด์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กทม.และกรมอนามัย เป็นต้น
****************************************** 23 กุมภาพันธ์ 2555
View 12
23/02/2555
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ