รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยเทศกาลปีใหม่ หน่วยกู้ชีพ 1669 สามารถช่วยผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนได้ร้อยละ 96 มีผู้ใช้บริการโทร 1669 ร้อยละ 76  ผลตรวจการขายเหล้าช่วงเทศกาล 7 วันเพื่อลดปัญหาเมาแล้วขับ  ตามกฎหมาย 3 ฉบับ พบผู้กระทำผิดและดำเนินคดี รวม 99 ราย จากที่ตรวจทั้งหมด 379 ราย   โดยเป็นผู้กระทำผิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด 69 ราย ภาคใต้ 17 ราย ภาคเหนือ 13 ราย  

 
                  นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการดำเนินการการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ผลจากการที่ทุกหน่วยงานร่วมกันดำเนินการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจราจร พบว่าได้ผลดี  จำนวนผู้บาดเจ็บปีนี้ ลดลงจากเทศกาลปีใหม่ปี 2554 ร้อยละ 10  ผลการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์กู้ชีพฉุกเฉิน ปรากฏว่าประชาชนเรียกใช้หมายเลขสายด่วน 1669 ร้อยละ 76 และเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 10 นาทีได้ร้อยละ 85 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80   
 
นายวิทยากล่าวต่อว่า เฉพาะในกลุ่มผู้บาดเจ็บที่ได้รับการช่วยเหลือจากรถพยาบาลฉุกเฉินหรือรถแอมบูแลนซ์ (Ambulance)  5,410 ราย พบว่ารอดชีวิต 5,216 ราย คิดเป็นร้อยละ 96  ซึ่งนับว่าประสบผลสำเร็จ  มีเสียชีวิต 194 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 103 ราย และเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน 41 ราย เสียชีวิตระหว่างนำส่ง 6 รายคิดเป็นร้อยละ 3 ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมาก 
 
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากที่สุดร้อยละ 79   สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากอันดับ 1 มาจากเมาแล้วขับ ร้อยละ 37  ซึ่งในเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกจังหวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจจับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ 1.พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 2.พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 และ3. ปว. 253 ให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดโดยไม่ละเว้น   ออกตรวจตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555  เพื่อลดปัญหาเมาแล้วขับ
 
ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจ 3 ทีมใน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2554  ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555  ตรวจทั้งหมด  379 ราย   พบผู้กระทำผิดและดำเนินคดี รวมทั้งหมด 99 ราย มากที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินคดี  69 ราย  จากที่ตรวจทั้งหมด 128 ราย   รองลงมาคือ ภาคใต้  ตรวจ.  132 ราย   จับกุมดำเนินคดี. 17 ราย    และภาคเหนือ ตรวจ 119 ราย จับกุมดำเนินคดี  13 ราย รวม 144 เรื่องบางรายทำผิดหลายเรื่อง
 
ทางด้านนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ความผิดที่พบอันดับ 1 คือ  มาตรา 32 การโฆษณาสื่อสารการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย  จำนวน 72 ราย รองลงมาคือ ผิดมาตรา 27  การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม 22 ราย ได้แก่ขายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 20 ราย  ขายในร้านขายยา 1 ราย   ขายในสวนสาธารณะของทางราชการ 1 ราย      ขายโดยไม่มีใบอนุญาต 9 ราย     ผิดมาตรา 29 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีจำนวน  5 ราย         และผิดมาตรา 30 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการต้องห้าม คือลด แลก แจก แถมจำนวน  3 ราย    ขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด 3 ราย 
 
นายแพทย์สมานกล่าวต่อว่า จากการที่ออกตรวจในส่วนภูมิภาคครั้งนี้ พบประเด็นควรมีการเข้มงวด 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ควรมีการห้ามขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนนหลวงหรือทางสาธารณะด้วย   เพราะมีการเลี่ยงขายบนถนนหน้าสวนสาธารณะบ้าง  หน้าปั้มน้ำมัน  หน้าสถานที่ราชการ หน้าโรงเรียน เป็นต้น อย่างมากมาย   2.งดเว้นหรือเข้มงวดอย่างยิ่งต่อการออกใบอนุญาตขายสุราประเภทชั่วคราว ในช่วงเทศกาลหยุดยาวๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่เสี่ยงสูงๆ เช่น บริเวณที่ต้องขึ้นลงเขาต่างๆ เป็นต้น เพราะพบลานเบียร์และร้านขายเร่ทั้งที่เขาค้อและทางขึ้นเขาใหญ่มากมายและ 3. ให้เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตลอดเวลา ไม่เฉพาะช่วงเทศกาล เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ  
                              
                                                                                                                                                 ******************                   5 มกราคม 2554
                             
  


   
   


View 14    05/01/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ