รัฐบาลมอบแรงงาน อุตสาหกรรม ทรัพยากรธรรมชาติฯ และ สธ. เร่งฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยแรงงานมีงานทำ ตรวจเข้มคุณภาพน้ำสูบออกจากนิคมฯ ต้องปลอดภัย ไม่กระทบกับสุขภาพประชาชน

เช้าวันนี้ (21 พฤศจิกายน 2554) ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมจัดกิจกรรมบิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ (Big Cleaning Day) “รวมพลังคืนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน” หลังประสบภัยน้ำท่วม โดยมอบอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ถุงมือยาง รองเท้าบู๊ท หน้ากากอนามัย ให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งการเร่งฟื้นฟูครั้งนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแล้ว จะช่วยกลุ่มแรงงานให้มีงานทำ ช่วยฟื้นฟูด้านสุขภาพจิต สร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนและแรงงานในระยะยาว

นายวิทยากล่าวว่า ในการกู้และฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ที่ถูกน้ำท่วม 7 แห่ง ได้แก่ สหรัตนนคร โรจนะ บ้านหว้า (ไฮเทค) บางปะอิน แฟตตอรี่แลนด์ นวนคร และบางกระดี ให้กลับมาดำเนินการได้เหมือนเดิมอย่างเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัย ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำก่อนสูบออกนอกนิคมอุตสาหกรรม และเฝ้าระวังประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของชุมชนรอบ ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยประชาชนสูงสุด เป้าหมายหลักตรวจ 2  อย่าง คือตรวจการปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมี หากผลตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนสารเคมี หรือโลหะหนักเกินมาตรฐานเป็นอันตรายจะต้องหยุดสูบออก และทำการบำบัดน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานจนไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยได้เริ่มดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งคือโรจนะ ไฮเทค บางปะอิน และนวนคร ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน 2554 เป็นต้นมา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขใช้งบดำเนินการเกือบ 4 ล้านบาท  

                   

                   

             นายวิทยากล่าวต่อว่าช่วงที่น้ำท่วมขังในระยะแรก กระทรวงสาธารณสุขได้สุ่มตรวจน้ำในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งคือที่ไฮเทคและนวนคร ผลการตรวจคุณภาพน้ำที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่เก็บตัวอย่างน้ำ 6 จุด เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2554  ผลการตรวจพบส่วนใหญ่ไม่เกินค่ามาตรฐานของแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 4 ยกเว้นทองแดง พบประมาณระหว่าง 0.112 และ 0.155  มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานน้ำทิ้งอุตสาหกรรม ที่กำหนดอยู่ที่ 2 มิลลิกรัมต่อลิตร  ซึ่งเป็นน้ำเพื่อใช้ในการอุตสาหกรรม ไม่ควรนำมาใช้อุปโภคบริโภค

                   

               

สำหรับผลการตรวจที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้เก็บตัวอย่างน้ำที่บริเวณหน้าสถานีจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และที่โรงงานอุตสาหกรรม 4 จุด ได้แก่ บริเวณใกล้โรงงานกิฟฟารีน 2 จุด ใกล้โรงงานฟูจิกูระ และเนสท์เล่ เมื่อ 20 ตุลาคม 2554 ผลพบปนเปื้อนแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มในระดับสูง แสดงว่าเป็นน้ำเน่าเสีย มีการปนเปื้อนขยะอินทรีย์ และสิ่งปฎิกูลในปริมาณสูง ซึ่งพบได้ทั่วไป ส่วนการปนเปื้อนสารเคมีพบว่าสูงกว่ามาตรฐานน้ำผิวดินประเภทที่ 4 เล็กน้อย โดยตรวจพบสารจำพวกฟีนอลและโลหะหนักบางชนิด เช่นทองแดง ตะกั่ว และแคดเมียม แต่ปริมาณยังต่ำกว่าค่ามาตรฐานน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม และได้เก็บตัวอย่างตรวจซ้ำ เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2554  จะทราบผลในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ในกรณีหากผลการตรวจพบว่าคุณภาพน้ำในชุมชนมีค่าผิดปกติ กระทรวงสาธารณสุขจะทำการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนที่พักอาศัยบริเวณชุมชนใกล้เคียง เพื่อตรวจคัดกรองการสัมผัสสารเคมีที่ปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหาใด ๆ   ****************    21 พฤศจิกายน 2554