กระทรวงสาธารณสุข  จัดทำแผนการตรวจราชการและนิเทศงานของกระทรวงสาธารณสุข   ใช้เป็นกรอบในการติดตาม กำกับ เร่งรัดนโยบายให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่ในปีนี้ มี 23 ตัวชี้วัด และตั้งคณะกรรมการ 5 ชุด เป็นแกนประสานงานติดตามผลในระดับกระทรวง  เพื่อแก้ไขและพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างทันท่วงที 

          นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เพื่อสรุปผลการตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุขรอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554   และมอบนโยบายแนวทางการพัฒนางานในปีงบประมาณ 2555    ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าวันนี้ (23 กันยายน 2554) ว่า ในปีงบประมาณ 2554 กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนการตรวจราชการและนิเทศงานระดับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นทิศทางในการติดตาม กำกับ เร่งรัด และประเมินผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานในส่วนภูมิภาค  โดยนำนโยบายที่เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขด้านสุขภาพไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่ ประชาชนสัมผัสได้จริง

ทั้งนี้ได้กำหนดตัวชี้วัดผลงานทั้งหมด 23 ตัวชี้วัด เช่นการตรวจคัดกรองผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง การเข้าถึงบริการของประชาชน เป็นต้น ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมี 19 เขต เป็นผู้ถ่ายทอดนโยบายจากส่วนกลางลงสู่ภูมิภาค และติดตามผลและปัญหาอุปสรรคจากภูมิภาค เพื่อประมวลผลในภาพรวมและการแก้ไขให้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ        

นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อไปว่า  เพื่อให้การบริหารจัดการนโยบายด้านต่างๆ เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นแกนประสานติดตามผลนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 5  คณะ ได้แก่ 1.คณะติดตามนโยบายและปัญหาเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข  2.คณะพัฒนาระบบบริการสุขภาพและระบบหลักประกันสุขภาพ 3.คณะส่งเสริม ป้องกันควบคุมโรค และลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ  4.คณะการบริหารจัดการระบบสุขภาพ และ 5.คณะการตรวจราชการแบบบูรณาการ เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายรัฐบาล 

ผลดำเนินงานในปีงบประมาณ 2554  ซึ่งปฏิบัติการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553 จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2554   มีโครงการที่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น โครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน  เป้าหมาย 2 กลุ่มคือกลุ่มประชาชนทั่วไปอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ประมาณ 20 ล้านคน    พบเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 22  เป็นโรคเบาหวานร้อยละ 15  และกลุ่มพระภิกษุ สามเณร ผู้นำศาสนา พบมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวาน 18,814 รูป เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 37,639 รูป  โครงการนี้ทำให้สามารถวางแผนการดูแลเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ที่ป่วยแล้วได้     และยังมีโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งสามารถยกระดับสถานีอนามัย 9,750 แห่ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมด กระจายบริการคุณภาพสู่ประชาชนทุกหย่อมหญ้า

นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่าสำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2555  จะเน้นหนักงานส่งเสริมสุขภาพป้องกันการเกิดโรคให้เข้มข้นขึ้น  โดยเฉพาะโรคเรื้อรังทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอ้วน  การพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยให้รักษาอยู่ใกล้บ้าน การตั้งศูนย์เชี่ยวชาญในภูมิภาครักษาโรคหัวใจ อุบัติเหตุ โรคเด็ก และโรคมะเร็ง ศักยภาพเช่นเดี่ยวกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย 

************************************************* 23 กันยายน 2554



   
   


View 15    23/09/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ