กระทรวงสาธารณสุขหนุนงบกว่า 1,000 ล้านบาท จัด 13 โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ “80 พรรษา สืบสานพระเมตตา พัฒนาผู้สูงวัย” ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจำนวนกว่า 7 ล้านคน ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพเพื่อชะลอความเสื่อมร่างกาย และดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยฟรีถึงบ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช้าวันนี้ (10 มีนาคม 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลและถวายความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯทรงประกอบพิธีเปิดที่ทำการกระทรวงสาธารณสุข ณ จังหวัดนนทบุรี ครบรอบ 10 ปี และเปิดโครงการ “80 พรรษา สืบสานพระเมตตา พัฒนาสุขภาพผู้สูงวัย” เฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นายแพทย์มรกต กล่าวว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจัดทำโครงการ “80 พรรษา สืบสานพระเมตตา พัฒนาสุขภาพผู้สูงวัย” เพื่อสนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระเมตตากับงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่สุขภาพร่างกายเริ่มเสื่อม ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากการเกิดโรคในวัยนี้ ล้วนเป็นการสะสมมาตั้งแต่วัยกลางคน ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปกว่า 7 ล้านคนหรือประมาณร้อยละ 10 ในจำนวนนี้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป 648,000 คน และคาดว่าอีก 13 ปี สัดส่วนของผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็นร้อยละ 15 แนวโน้มเป็นเหมือนกันทั่วโลก จึงต้องเตรียมการรองรับอย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยแห่งความเสื่อม มีโอกาสเกิดโรคมากกว่าวัยอื่นๆ ถึง 4 เท่าตัว จากผลการสำรวจสุขภาพของผู้สูงอายุครั้งล่าสุดในปี 2547 พบว่าผู้สูงอายุร้อยละ 80-90 มีความสามารถทำกิจวัตรประจำวันเองได้ มีเพียงร้อยละ 10 ที่ต้องพึ่งพิงคนอื่นช่วยดูแล ผู้สูงอายุมีประวัติหกล้มเฉลี่ยคนละ 3 ครั้งต่อปี ทำให้เกิดกระดูกหักร้อยละ 8 เป็นอัมพฤกษ์ร้อยละ 1 สาเหตุการหกล้มมาจากวิงเวียนศีรษะ และการทรงตัว ผู้สูงอายุร้อยละ 45 มีฟันน้อยกว่า 20 ซี่ กลุ่มนี้มีเพียงร้อยละ 28 ที่ได้ใส่ฟันปลอม ผู้สูงอายุวัย 60-69 ปี มีความจำเลอะเลือนร้อยละ 20 และผู้สูงอายุเฉลี่ยร้อยละ 50 มีรายได้น้อย ต้องพึ่งเงินจากลูกหลาน โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งรณรงค์ค้นหา ตรวจคัดกรองผู้สูงอายุในชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยแล้ว โดยเฉพาะโรคที่เสี่ยงหรือพบบ่อย ให้ได้รับบริการอย่างเหมาะสม และเสริมสร้างความรู้ในการดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุที่ยังไม่เจ็บป่วย ทั้งด้านร่างกายและสุขภาพจิต เพื่อชะลอความเสื่อมร่างกายอย่างเหมาะสม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โครงการดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่มกราคม - 31 ธันวาคม 2550 ฟรีทั้งหมด ใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 1,000 ล้านบาท ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในโครงการฯนี้ ประกอบด้วยโครงการย่อย 13 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 80,000 ราย 2.โครงการ อย.น้อยคุ้มครองผู้สูงอายุ ผลิตคู่มือการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ 100,000 เล่ม 3.โครงการบำบัด คัดกรอง รักษาและฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมผู้สูงอายุ เช่นปวดข้อ ขยับไม่ถนัด ข้อขัด ข้อติด จำนวน 2,400 ราย 4.โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการเบ็ดเสร็จ ตรวจคัดกรองการทำงานของระบบประสาท ประเมินความพิการ วัดสายตา ประกอบแว่น มอบเครื่องช่วยความพิการ ขูดหินปูน ทำฟันให้ผู้สูงอายุที่พิการ ในพื้นที่ 5 จังหวัด พังงา กาญจนบุรี นครสวรรค์ สุรินทร์และชุมพร 5.โครงการสืบสานพระเมตตา เร่งรักษาวัณโรค 6.โครงการผ่าตัดตาต้อกระจกเปลี่ยนใส่ใสเลนซ์แก้วตาเทียม 80,000 คน 7.โครงการผ่าตัดหัวใจจำนวน 8,000 ราย 8.โครงการใส่ใจสุขภาพผู้สูงอายุด้วยการแพทย์แผนไทย โดยจัดอบรมหลักสูตรการแพทย์แผนไทยระยะสั้น เช่น การนวดไทย การอบ การประคบสมุนไพร แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 1,080 คนหลักสูตร 100 ชั่วโมง เพื่อลดปัญหาการใช้ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ 9.โครงการร่วมใจพัฒนาผู้สูงอายุ (พฤฒพลัง) จัดสิ่งแวดล้อมและบริการที่เหมาะสมแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการในสถานพยาบาลทุกแห่ง 10.โครงการพยาบาลรักษ์สุขภาพประชาชน ให้บริการตรวจสุขภาพคัดกรองหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคต่างๆ ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 800 แห่ง ใน 75 จังหวัด และโรงพยาบาลในกทม.ที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กลาโหม มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติและศึกษาธิการ เพื่อให้ได้รับการดูแลป้องกันอาการกำเริบรุนแรง โครงการนี้เริ่มตั้ง 5 มิถุนายน 2549 -21 ธันวาคม 2549 สามารถค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ทั้งผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไป 3,761 คน 11.โครงการสร้างระดับภูมิปัญญา พัฒนาสุขภาพจิตผู้สูงอายุ 12.โครงการหนังสือพระราชจริยวัตรด้านสาธารณสุข จำนวน 3,000 เล่ม ๆ ละ 200 หน้า และ13.โครงการประกันคุณภาพยาที่ใช้มากในคลินิกผู้สูงอายุของโรงพยาบาลทั่วประเทศ (Golden Drug for Golden Age) ได้แก่ ยารักษาโรคหัวใจ ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดไขมันในหลอดเลือด ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ สร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ยายิ่งขึ้น สำหรับผู้สูงอายุที่มาร่วมงานในวันนี้ จะได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขต่าง ๆ ฟรี ที่ห้องโถงอาคาร 1 อาคาร 3 และลานอเนกประสงค์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เวลา 08.30 – 12.00 น. เช่น ตรวจสุขภาพฟัน ตรวจสมรรถภาพปอด ตรวจคัดกรองสายตา ตรวจคัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดความดันโลหิต เอ็กซเรย์ปอด บริการนวดเท้าเพื่อสุขภาพ สาธิตการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม สิ่งประดิษฐ์ช่วยในการออกกำลังกาย การเลือกซื้ออาหารแปรรูป สาธิตการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ สาธิตการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น โดย อสม. **************************** 10 มีนาคม 2550


   
   


View 14    10/03/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ