นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินการจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรค ใช้ในประเทศไทย หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบวาระแห่งชาติด้านวัคซีน เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554 ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดนี้ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชบัญญัติสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. ....” เสร็จแล้ว โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามเห็นชอบ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวนี้ เพื่อให้มีหน่วยงานกลางแห่งชาติด้านวัคซีน ที่มีกฎหมายรองรับอย่างเป็นทางการ สามารถดำเนินการได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ โดยคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้เสนอให้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นองค์การมหาชน เพื่อความเป็นอิสระ คล่องตัวในการบริหารจัดการในด้านการวิจัยพัฒนา การผลิต การควบคุมคุณภาพ และการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และการสนับสนุนทรัพยากรอย่างเพียงพอ สามารถพึ่งตนเองได้ และเกิดความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ โดยมีทั้งหมด 5 หมวด 40 มาตรา หมวดที่ 1 ว่าด้วยคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (National Vaccine Committee) มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ หมวดที่ 2 ว่าด้วยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (National Vaccine Institute) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมาย มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่จัดทำร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ วางกลยุทธ์เป้าหมายและแนวทางดำเนินงานเสนอคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ หมวดที่ 3 ว่าด้วยกองทุนวัคซีนแห่งชาติ เพื่อใช้ส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานด้านวัคซีนให้เป็นไปตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ หมวดที่ 4 และ 5 ว่าด้วยการประสานงาน กำกับ ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบาย และบทเฉพาะกาล นายบุณย์ธีร์กล่าวต่อไปว่า วัคซีนเป็นเครื่องมือทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพและมีความคุ้มทุนสูงในการป้องกันและควบคุมโรค ปัจจุบันไทยมีการใช้วัคซีนภายในประเทศมูลค่าประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท ร้อยละ 80 นำเข้าจากต่างประเทศ ไทยมีหน่วยงานที่สามารถผลิตวัคซีนได้เองเพียง 2 หน่วยงาน คือองค์การเภสัชกรรม ผลิตวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อตาย และสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ผลิตวัคซีนป้องกันวัณโรค จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะผลักดันให้มีการวิจัยพัฒนา การผลิต การประกัน การควบคุมคุณภาพ และการใช้วัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศสามารถพึ่งตนเองและมีความมั่นคงด้านวัคซีน มั่นใจว่าร่างพระราชบัญญัติสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จะได้รับความชอบจากคณะรัฐมนตรี ********************************* 9 เมษายน 2554


   
   


View 19    09/04/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ