กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มทีมสุขภาพจิตประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ดูแลจิตใจคนไทยที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น พร้อมเปิดสายด่วน 1323 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง บริการให้คำปรึกษาแนะนำ คลายความวิตกกังวล แนะวิธีคลายเครียดเบื้องต้นให้พูดคุยกับคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว ทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย งานอดิเรก จะช่วยคลี่คลายได้ หากไม่ดีขึ้นให้ไปรับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน  

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดูแลสุขภาพคนไทยจากสถานการณ์ภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น ว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติกรณีญี่ปุ่นด้านการแพทย์และสาธรณสุข ของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ (21 มีนาคม 2554) ได้ประเมินสถานการณ์ของญี่ปุ่นพบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณกัมมันตภาพรังสีอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยต่อสุขภาพ ส่วนระดับการปนเปื้อนในอาหารและน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศให้การดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่น รวมทั้งคนไทยที่เดินทางกลับมาแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นใจ โดยผลการตรวจรักษาคนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นยังไม่พบความผิดปกติจากกัมมันตภาพรังสี มีเพียงการเจ็บป่วยทั่วไป เช่นไข้หวัด เนื่องจากอากาศหนาวเย็น และมีความตึงเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแผ่นดินไหวที่เกิดซ้ำอยู่เรื่อย ๆ
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในด้านการดูแลคนไทยที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนรับมือ โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลสุขภาพจิตของคนทุกวัย วันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มทีมสุขภาพจิตประจำที่จุดบริการให้คำแนะนำปรึกษาผู้โดยสารขาเข้า ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อดูแลแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ที่มีความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ และเปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้บริการปรึกษาผู้ที่มีปัญหาความเครียด วิตกกังวลต่างๆ ฟรี 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขในสังกัดทั่วประเทศ พร้อมให้บริการแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องด้วย
ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการฯ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำการดูแลจิตใจสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยตัวเอง ดังนี้ 1.ให้พูดคุยกับคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว 2.ให้ทำกิจกรรมที่สามารถผ่อนคลายความตึงเครียดได้ เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก สวดมนต์ไหว้พระ หรือทำกิจกรรมอื่นๆตามสมควร 3. ดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการยังไม่ดีขึ้น ขอให้ไปปรึกษาแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
   *****************************  21 มีนาคม 2554


   
   


View 9    21/03/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ