“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 374 View
- อ่านต่อ
เข้มบังคับใช้ พรบ.คุมน้ำเมา บอยคอตธุรกิจเหล้าอาศัยจังหวะช่วงเทศกาลขายของ ปรามวัยโจ๋เล่นน้ำท้ายรถกระบะ ปลื้มกว่า 40 จังหวัด กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เล่นน้ำปลอดเหล้า ลั่นเตรียมขยายครอบคลุมทั่วประเทศ
วันนี้ (16 มีนาคม 2554) ที่โรงแรมโกเดนท์ ทิวลิป กรุงเทพฯ ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายชนมชื่น บุญญานุสาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีประกาศเจตนารมณ์ “สงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า” ประจำปี 2554 โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วม ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย กว่า 300 คนเข้าร่วม ทั้งนี้ประธานได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย ในงานประเพณีสงกรานต์ปลอดเหล้า ประจำปี 2554 กว่า 40 จังหวัด
ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นช่วงอันตราย เพราะอุบัติเหตุจากการเดินทางและการเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเครื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดความสูญเสีย การขาดสติ และนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีและในวันที่ 20 เม.ย. 2553 ได้มีมติสนับสนุนข้อเสนอที่ว่าด้วยการห้ามดื่มห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ รณรงค์เล่นสงกรานต์อย่างปลอดภัย เพื่อลดความสูญเสีย ปกป้องเด็กเยาวชน และวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่ ดังนั้นสงกรานต์ปีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนประเพณีสงกรานต์ปลอดภัย 5 ประการดังนี้
1. ร่วมกันประกาศเป็นนโยบายในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชน 2. ไม่สนับสนุนให้บริษัทเหล้าเบียร์บุหรี่ ทำการโฆษณาสินค้าหรือทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายในพื้นที่ จัดงานประเพณีสงกรานต์ 3. ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 อย่างจริงจังต่อเนื่อง 4.ร่วมกันรณรงค์ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเล่นน้ำสงกรานต์อย่างถูกวิธี ตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น อันจะเป็นการปกป้องเด็กเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตสำคัญของประเทศชาติ และ 5. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 และพ.ร.บ.สุรา 2493 อย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยทบทวนการออกใบอนุญาตจำหน่ายสุราให้เข้มงวดและเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด รวมทั้งการกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการเล่นน้ำท้ายรถกระบะที่มีผู้โดยสารจำนวนมากด้วย
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า ตอนนี้พฤติกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นน้ำ และการเมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์ปี 2553 มียอดผู้เสียชีวิตมากถึง 361 ราย บาดเจ็บ 3,802 ราย และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,516 ครั้ง ดังนั้น การรณรงค์ให้ประชาชนเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย รวมถึงรณรงค์ให้ทราบถึงกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 จึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะที่ผ่านมามีการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขาย เช่น ปั๊มน้ำมัน รวมถึงช่วงเวลาที่ห้ามจำหน่าย ซึ่งคงต้องขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อให้ลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะการเล่นน้ำท้ายรถกระบะ