รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้ภัยโรคเบาหวาน อาจทำให้ประเทศไทยล้มละลายได้ เพราะค่ารักษาแพง โดยเฉพาะหากมีโรคแทรกซ้อนเช่นไตวาย ต้อกระจก โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าป่วย ออกนโยบาย เร่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ ออกค้นหา เพื่อให้การดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เผยผลการสำรวจสุขภาพล่าสุดคาดคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานกว่า 3 .2 ล้านคน ในจำนวนนี้รู้ตัวว่าป่วยเพียง 1 ล้านกว่าคน นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาสาธารณสุขระหว่างตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย โรงพยาบาลลอง จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนายแพทย์ทนงสรรค์ สุธาธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และติดตามการดำเนินงานสาธารณสุขของพื้นที่ ว่า ขณะนี้โรคเบาหวานกำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวว่าป่วย ถ้าหากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่ทำงานเชิงรุกออกไปค้นหาผู้ป่วยในชุมชน ก็จะไม่พบผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะมาโรงพยาบาลก็ต่อเมื่อมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้ว เช่นไตวาย ตาต้อกระจก โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นนี้ เป็นแล้วเป็นเลย ร่างกายจะไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้อีก ต้องเสียเงินรักษาตลอดชีวิต และอาการจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นายแพทย์มงคลกล่าวต่อไปว่า หากไม่แก้ไขปัญหา อีกหน่อยประเทศไทย จะล้มละลายจากโรคเบาหวาน เนื่องจากโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น เป็นโรคที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เช่นไตวาย ต้องล้างไตทุกเดือน หากไตเสื่อมมาก ก็อาจต้องล้างอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตระหนักความสำคัญปัญหานี้ และจริงจังในการออกไปค้นหาผู้ป่วยในชุมชนต่างๆ โดยให้เร่งจัดทำแฟ้มสุขภาพประจำครอบครัว ซึ่งหากทำได้ครอบคลุม เราจะรู้ปัญหาสุขภาพของแต่ละครอบครัวได้ และสามารถควบคุมปัญหาไว้ได้ ทั้งนี้ จากการสำรวจสุขภาพของประชาชนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ ล่าสุดในปี 2547 คาดคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานเกือบร้อยละ 7 หรือประมาณ 3 ล้าน 2 แสนคน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2534 ประมาณ 3 เท่าตัว ในจำนวนนี้รู้ตัวว่าตัวเองป่วยเพียง 1 ล้าน 4 แสนคน หรือประมาณร้อยละ 44 เท่านั้น และในกลุ่มที่รู้ตัวว่าป่วยพบว่า ได้รับการรักษาที่ได้ผล ควบคุมอาการไม่ให้กำเริบได้เพียง 4 แสนคนเท่านั้น นายแพทย์มงคลกล่าวต่อว่า ขณะนี้เราทุ่มเทกับการรักษามาก ขาดระบบการป้องกันที่ดี ทำให้คนมาออที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนวิ่งไล่ตามปัญหา จึงต้องปรับเปลี่ยนการทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถป้องกันโรค ลดปัญหาคุมคามสุขภาพประชาชนได้เป็นอันมาก ทางด้านนายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่กล่าวว่า ที่จังหวัดแพร่มีประชากรเกือบ 5 แสนคน มี 8 อำเภอ ขณะนี้การป่วยจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไตวายเฉียบพลันกำลังสร้างปัญหาการป่วยและเสียชีวิตของประชาชนในอันดับต้นๆ ของจังหวัด โดยเฉพาะโรคเบาหวาน อัตราป่วยเพิ่มจากแสนละ 464 คนในปี 2545 เป็นแสนละ 804 คน ในปี 2549 ส่วนอัตราตายจากโรคเบาหวานเพิ่มจากแสนละ 18 คน ในปี 2547 เป็นแสนละ 20 คนในปี 2549 เฉพาะที่อำเภอเด่นชัย ในปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคเบาหวานเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จำนวนเกือบ 4,000 คน รองจากโรคความดันโลหิตสูง นายแพทย์ปรีดากล่าวต่อไปว่า ในการแก้ไขปัญหา ในปีนี้ได้ปรับมาตรการ โดยจัดทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข ออกค้นหาผู้ป่วย โดยตรวจระดับน้ำตาลในเลือดประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงโรคนี้ หากพบรายใดมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ก็จะส่งพบแพทย์รักษาทันที เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน ตั้งเป้าจะลดอัตราป่วยจากโรคเบาหวานในปีนี้ ลงให้ได้ร้อยละ 60 และลดอัตราตายจากโรคเบาหวานให้ได้ร้อยละ 80 นอกจากนี้จะได้รณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในชุมชน โดยงดกินหวาน ให้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เป็นแบบอย่างของประชาชน เช่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน กุมภาพันธ์7/3-4 ************************** 25 กุมภาพันธ์ 2550


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ