วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2554) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสธารณสุข และนายแพทย์สมยศ  ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดโครงการ “ส้วมสะอาด ชาติเจริญ” และลงนามบันทึกความเข้าใจข้อตกลงการพัฒนาส้วมปั้มน้ำมันบนถนนสายหลัก ระหว่างกรมอนามัยกับกรมธุรกิจพลังงาน ผู้ประกอบธุรกิจน้ำมัน

นายจุรินทร์กล่าวว่า การพัฒนาปรับปรุงส้วมสาธารณะ เป็น 1 ใน 21 นโยบายกระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าในปี 2554 จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้บริการส้วมสาธารณะ 12 ประเภททั่วประเทศ พบว่าส้วมสาธารณะที่ประชาชนอยากให้มีการปรับปรุงมากที่สุด คือ ส้วมสาธารณะในปั๊มน้ำมัน สูงถึงร้อยละ 26 เมื่อเปรียบเทียบกับอีก 11 ประเภท โดยสิ่งที่ประชาชนอยากให้มีการปรับปรุงมากที่สุดคือ ความสะอาด ความสะดวก ความปลอดภัย และความเพียงพอของปริมาณจำนวนส้วมกับผู้ใช้บริการ และสุดท้ายคือเรื่องความสวยงาม   โดยในเรื่องความสะอาด สิ่งที่ต้องการให้ปรับปรุงมากที่สุดคือ เรื่องกลิ่น รองลงมาคือความสะอาดทั่วไป พื้นห้องน้ำแห้ง มีระบบระบายอากาศ มีกระดาษชำระให้บริการ

 ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายให้ส้วมในปั๊มน้ำมันทั่วประเทศได้มาตรฐานHAS ของกระทรวงสาธารณสุข คือ สะอาด ปลอดภัย และเพียงพอกับประมาณผู้ใช้บริการต่อสัดส่วนสุขาในแต่ปั๊มน้ำมัน โดยจะเริ่มต้นดำเนินการในถนนสายหลักทั่วประเทศ 8 สาย และมีปั๊มน้ำมันบนถนนสายหลักรวมทั้งสิ้น 1,578 แห่ง ตั้งเป้าหมายทำให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยในวันนี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจร่วมกันของบริษัทจำหน่ายน้ำมันทั่วประเทศ ทุกยี่ห้อ รวมทั้งภาคเอกชนอื่น ๆ  ด้วย

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า จากนี้ไปหากปั๊มนำมันมีส้วมได้มาตรฐาน จะมอบป้าย “ส้วมสะอาด ชาติเจริญ” เป็นสัญลักษณ์ว่าได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และจะนำปั๊มน้ำมันที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว บันทึกลงในแผนที่การเดินทางระบบจีพีเอส ซึ่งจะระบุว่าถนนสายนี้มีส้วมสาธารณะมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ตรงไหน นอกจากนั้นจะขอให้กรมทางหลวงบรรจุลงในหนังสือแผนที่ทางหลวงด้วย เพื่อความสะดวกของประชาชนในการที่จะเลือกใช้บริการ 

ทั้งหมดนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์กับประชาชนผู้รับบริการแล้ว จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมันด้วย เพราะว่าจากผลการสำรวจพบว่าส้วมในปั๊มน้ำมันเป็นจุดขายจุดหนึ่งที่ดึงดูดผู้ใช้บริการได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และบางแห่งทำให้ธุรกิจมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 2-3 เท่าตัว ทำให้นอกจากขายน้ำมันได้เพิ่มแล้ว อาหาร ของใช้ต่าง ๆ ในซูเปอร์มาเก็ตในปั๊มน้ำมันก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจขณะนี้พบว่ามีส้วมที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้วประมาณร้อยละ 30 ส่วนที่เหลือจะมีกรรมการออกไปตรวจ ให้คำแนะนำ รณรงค์ให้ปรับปรุงส้วมให้ได้มาตรฐานต่อไป

*************************************** 24 กุมภาพันธ์ 2554
 
 


   
   


View 7       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ