ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยส่งเรื่องให้ทีมทนายรวบรวมข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป พร้อมยินดีให้รัฐมนตรีตรวจสอบคลิปภาพ เพื่อให้ความจริงเปิดเผย ย้ำไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง และสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาองค์กรให้เป็นที่พึ่ง ที่ศรัทธาของประชาชน   

                วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินการกรณีมีการนำคลิปภาพอ้างว่าเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีพฤติกรรมทางชู้สาวกับหญิงสาวในชุดนักศึกษามาเผยแพร่ว่า ในเรื่องนี้ มี 2 ประเด็น คือการแจ้งความ ขณะนี้ได้มอบให้ทีมทนายความกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และหากรวบรวมเอกสารข้อมูลครบถ้วนแล้ว ทางทีมทนายความจะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งความต่อไป 

ส่วนประเด็นที่ 2 ในวันนี้ได้รับทราบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จะให้มีการตรวจสอบคลิปภาพ คิดว่าจะต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ส่วนการยืนยันความบริสุทธิ์ก็ได้ยืนยันตั้งแต่เมื่อวานว่าไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าว แต่เมื่อมีการตรวจสอบก็ยินดี เพื่อให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเปิดเผย คงต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

          ส่วนประเด็นที่นักข่าวถามว่าเกี่ยวกับความขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนตั้งใจทำงาน อยู่ในฐานะผู้กำหนดนโยบาย ส่วนตนในฐานะปลัดกระทรวงมีหน้าที่รับโยบายไปปฏิบัติให้เกิดการขับเคลื่อน ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินการไปตามกรอบหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคิดว่าดำเนินการไปได้ด้วยดี จะเห็นได้จากงานของกระทรวงสาธารณสุขมีผลงานออกเป็นรูปธรรมที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

                  

                  

                                                    

          สำหรับกระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งในการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะเรื่องพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากการรับบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้บริหารองค์กรใหญ่เช่นกระทรวงสาธารณสุข ที่มีข้าราชการและลูกจ้างประมาณ 3 แสนคน มีคนหลากหลาย มีผู้ปฏิบัติงานกว่า 100 วิชาชีพ ซึ่งเป็นธรรมชาติขององค์กรใหญ่ที่จะต้องมีความขัดแย้ง เกิดขึ้น เพียงแต่ไม่ควรกระทบถึงภาพลักษณ์ขององค์กร ซึ่งต้องพยายามแก้ไข ยืนยันว่าจะพยายามลดความขัดแย้งให้มากที่สุด โดยให้ทุกคนยึดถือตัวองค์กรเป็นหลัก

          “ได้พูดกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกครั้งว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องรักษาองค์กร กระทรวงสาธารณสุขยังต้องเป็นที่พึ่งและเป็นที่ศรัทธาของประชาชน ความคิดเห็นอาจแตกต่างกันได้ สิ่งสำคัญคือองค์กรต้องอยู่ ส่วนคนมาแล้วก็ไปเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เกิดความท้อแท้แต่อย่างใด เพราะตนเองทำงานหนักมาตลอด 30 ปีแล้ว เหลือเวลาการทำงานอีก 1 ปีกว่า จะเดินหน้าสู้ คิดว่าในช่วงเวลาที่ยังมีโอกาสทำงาน จะพยายามทำสิ่งดี ๆ ให้กับส่วนรวมและประชาชนต่อไป” นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว   

 *************************************** 17 พฤศจิกายน 2553
 


   
   


View 13    17/11/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ