โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าเหตุการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ศูนย์อพยพบ้านแม่ละอูน และศูนย์อพยพแม่ลามาหลวง อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ผลการตรวจพบเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม พร้อมเฝ้าระวังอีก 2 ศูนย์อพยพที่อ.เมืองและอ.ขุนยวม แนะประชาชนหากป่วยเป็นไข้หวัดต้องหยุดพักอยู่บ้าน จนกว่าจะหาย อย่าโหมทำงาน สรุปสถานการณ์ตลอด 9 เดือนในปี 2553 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สะสม 66,090 ราย เสียชีวิต 94 ราย ในจำนวนนี้ร้อยละ 90 เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จากกรณีที่เกิดการระบาดไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ศูนย์อพยพหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 แห่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนคือที่ศูนย์อพยพบ้านแม่ละอูน และศูนย์อพยพบ้านแม่ลามาหลวง อ.สบเมย มีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่รวม 1,736 ราย แยกเป็นที่ศูนย์อพยพแม่ละอูนป่วย 1,103 ราย นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามของศูนย์อพยพ 74 ราย และพบผู้ป่วยที่ศูนย์แม่ลามาหลวง จำนวน 633 ราย นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามภายในศูนย์ 36 ราย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคำสั่งให้ปิดศูนย์อพยพทั้ง 2 แห่งชั่วคราวเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2553 นั้น ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งหน่วยสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลแม่สะเรียง และโรงพยาบาลสบเมย เข้าไปควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ร่วมกับองค์กรเอ็มไอซึ่งเป็นเอ็นจีโอที่ดูแลด้านการแพทย์ลาธารณสุขพื้นฐานในศูนย์อพยพดังกล่าว ล่าสุดนี้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ประชาชนไทยที่อยู่ใกล้เคียงไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งในปีนี้มีเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นไข้หวัดตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นอีก 1 ชนิด จึงทำให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน และวัยทำงาน ดังนั้นหากประชาชนที่ไม่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงป่วย มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด เช่นอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก แม้อาการจะไม่รุนแรง ยังไปไหนมาไหนได้ก็ตาม อย่าโหมทำงาน ขอให้หยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านอย่างน้อย 5 วัน จนกว่าจะหาย หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ต้องพบแพทย์ ส่วนผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ขอให้ไปรับบริการฉีดวัคซีนฟรี ได้ที่โรงพยาบาลภาครัฐใกล้บ้าน สถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2553 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 25 กันยายน 2553 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยสะสม 66,090 ราย เสียชีวิตสะสม 94 ราย โดยร้อยละ 90 เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทางด้านนายแพทย์สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ผลการสุ่มตรวจเชื้อผู้ป่วยที่ศูนย์อพยพแม่ละอูนและแม่ลามาหลวงจำนวน 5 ราย พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้ง 5 ราย ทั้ง 2 ศูนย์ฯ เริ่มป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 14 กันยายน 2553 เป็นต้นมา โดยที่ศูนย์แม่ละอูนมีผู้อพยพประมาณ 18,000 คน มีผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงสะสม 1,000 ราย และมีผู้ป่วยที่นอนรักษาในโรงพยาบาลสนามประจำศูนย์อพยพ 74 ราย และที่ศูนย์แม่ลามาหลวงมีผู้อพยพประมาณ 17,000 คน มีผู้ป่วยสะสมประมาณ 600 ราย เป็นผู้ป่วยที่นอนรักษาในโรงพยาบาลสนามประจำศูนย์อพยพ 36 ราย สรุปล่าสุดในวันนี้ทุกรายหายเป็นปกติ กลับไปพักในบ้านที่อยู่ในศูนย์พักพิง ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ทำการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ในศูนย์อพยพในจังหวัด อีก 2 แห่งคือ ศูนย์แม่สุริน อ.ขุนยวม มีผู้อพยพประมาณ 3,200 คน และศูนย์อพยพที่อ.เมืองอีกประมาณ 15,000 คน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯที่ผ่านการอบรมเรื่องไข้หวัดใหญ่แห่งละประมาณ 30 คน หากมีผู้ป่วยก็จะทำการแยกไม่ให้ปะปนกับผู้อพยพทั่วไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพราะสภาพภายในศูนย์อพยพอยู่อย่างแออัด ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วย และในกรณีที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการหนัก ศูนย์พักพิงสามารถเบิกยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังจำกัดคนไม่ให้เข้าออกศูนย์ฯที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้ง 2 แห่ง หากสถานการณ์ดีขึ้นจึงจะพิจารณาอนุญาตเปิดศูนย์ฯ ********************************************* 3 ตุลาคม 2553


   
   


View 12    03/10/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ