นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินพัฒนายกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือรพ.สต.ว่า ในช่วงแรกการทำงานอาจมีปัญหาติดขัดบ้าง แต่ขณะนี้ยืนยันว่าในระดับนโยบายมีความชัดเจนในทุกด้าน ทั้งในด้านการบริหาร การจัดบริการ งบประมาณ และกำลังคน นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การดำเนินงานโครงการ รพ.สต. มีหัวใจการทำงาน 4 ดวง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาสุขภาพในตำบล ประกอบด้วย 1.มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2.มีอาสาสมัครสาธารณสุข 3.มีแผนสุขภาพตำบลที่เอาปัญหาในพื้นที่เป็นที่ตั้ง ขณะนี้มีแผนสุขภาพตำบลเกิดขึ้นครบแล้วทุกตำบล และ4.มีกองทุนสุขภาพตำบล ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมจัดสรรงบประมาณให้รพ.สต. ร่วมกับสป.สช. นอกเหนือจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรปกติ ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีความพร้อมแล้ว มีคน มีแผน มีเงิน นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ด้านการจัดบริการ ได้มอบหมายให้รพ.สต. รับผิดชอบภารกิจ 5 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมอบหมาย เช่น โครงการ ลดหวาน มันเค็ม ลดอ้วน ลดโรค นโยบายเพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิวเป็นต้น ส่วนรูปแบบของ รพ.สต. ที่มีทั้งแบบรพ.สต.เดี่ยวและรพ.สต.พวง สำหรับ รพ.สต.พวงนั้น เป็นการบริหารจัดการในตำบลที่มีรพ.สต.หลายแห่ง โดยยกระดับให้ทุกแห่งเป็นรพ.สต.ทั้งหมด แต่ใช้กำลังคน งบประมาณร่วมกัน เพื่อให้การจัดบริการแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยไม่ต้องไปยุบสถานบริการเดิมที่มีขนาดเล็กมาก ในด้านบุคลากร มีการกำหนดตำแหน่งและจัดสรรเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในรพ.สต.อย่างชัดเจน ตามขนาดของรพ.สต. มีการจัดอบรมเพิ่มเติม ทั้งพยาบาลเวชปฏิบัติ และอสม. ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน ด้านระบบส่งตัวรักษาต่อมีเครือข่ายการส่งต่อชัดเจน รวมทั้งมีการจัดซื้อรถพยาบาลประจำโรงพยาบาลแม่ข่ายจำนวน 829 คัน นอกจากนี้ ยังได้ให้ รพ.สต.ทุกแห่งพัฒนาระบบบริการ มีการทำโครงการโรงพยาบาลสาธารณสุขยุคใหม่เพื่อคนไทยสุขภาพดีมีรอยยิ้ม หรือรพ. 3 ดี รวมทั้งมีระบบประกันคุณภาพ บริการ เพื่อให้ รพ.สต.มีระบบบริหารจัดการเป็นที่พอใจแก่ประชาชน โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ รพ.สต. 2,000 แห่งทั่วประเทศ ได้เปิดให้บริการประชาชนแล้ว และปี 2554 จะเปิดเพิ่มอีก 8,000 แห่งทั่วประเทศ ****************************************** 3 ตุลาคม 2553



   
   


View 15    03/10/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ