วันนี้ (18 กันยายน 2553) ที่จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลสาธารณสุขยุคใหม่ เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม ที่รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราชจำนวน 3,000 คน ว่า สถานการณ์ไข้เลือดออกในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในภาคใต้โดยรวมแล้วจำนวนผู้ป่วยลดลง ที่น่าเป็นห่วงต้องเร่งแก้ปัญหาต่อไปคือภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามเป็นพิเศษ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลจนทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงประชุมและรายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาในวันจันทร์ทุกสัปดาห์ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับโรคไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกจังหวัดต้องเร่งแก้ไขปัญหา
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 11 กันยายน 2553พบผู้ป่วยแล้ว 75,852 ราย เสียชีวิต 87 ราย จำนวนผู้ป่วยสูงสุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20,823 ราย รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง 20,350 ราย ภาคใต้ 19,986 ราย และภาคเหนือ 14,693 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตพบสูงสุดที่ภาคใต้ 44 ราย รองลงมาได้แก่ ภาคกลาง 18 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 ราย และภาคเหนือ 11 ราย สำหรับภาคใต้แม้จะมีผู้ป่วยเสียชีวิตกว่าภาคอื่น แต่ไม่สูงจนควบคุมไม่ได้
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดช่องทางพิเศษ หรือแยกหอผู้ป่วยสำหรับโรคไข้เลือดออกและโรคไข้หวัดใหญ่จากผู้ป่วยอื่น มอบให้แต่ละโรงพยาบาลบริหารจัดการเอง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดประชุมทางไกล ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ เข้าไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด จริงจัง ไม่อยากให้มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น ขณะเดียวกันให้เร่งรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย กำจัดลูกน้ำยุงลาย และพ่นทำลายยุงตัวแก่ รวมทั้งประสานงานเรื่องคุณภาพทรายกำจัดลูกน้ำยุงลายที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อ ต้องทำหลายๆ มาตรการพร้อมกัน
ในส่วนประชาชนขอให้ดูแลสุขภาพตนเอง เมื่อมีไข้ ให้สังเกตอาการตนเอง โรคไข้เลือดออกจะมีไข้สูง แต่ไม่มีอาการไอจาม หรือมีน้ำมูกเหมือนเป็นหวัด และขอให้รีบไปพบแพทย์ อย่าซื้อยากินเอง เพราะเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกสูง หากไปพบแพทย์เร็ว อาการจะไม่รุนแรง ผู้ป่วยไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต มั่นใจว่าแพทย์มีความรู้และประสบการณ์ในการรักษา สามารถวินิจฉัยแยกผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออกได้
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้มอบนโยบายให้อสม. ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอย่างใกล้ชิด เร่งรณรงค์ควบคุมป้องกันโรค เข้มมาตรการ 3 ร. 5 ป.ป้องกันโรคไข้เลือดออก และมาตรการกินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ป้องกันไข้หวัดใหญ่
********************** 18 กันยายน 2553
View 18
18/09/2553
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ